พี่สาววัย 17 ปี เลือกเรียนแบบโฮมสคูล อยู่ดูแลน้องสาว ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อเก็บช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด

เรื่องราวสุดประทับมาจากประเทศสิงคโปร์ อแมนดา วัย 17 ปี พี่สาวผู้แสนดีที่เลือกเรียนแบบโฮมสคูลมาตลอดระยะเวลาสามปี ทั้งหมดนี้เพื่อใช้ชีวิตและดูแล อมีเลีย น้องสาววัย 14 ปี ที่ป่วยไม่สามารถพูดคุยและช่วยเหลือตัวเองได้

ในตอนแรกอมีเลียเกิดมามีสุขภาพปกติ แต่เริ่มแสดงอาการป่วยในช่วง 18 เดือน ตอนนั้นคุณแม่สังเกตว่า อมีเลียไม่สามารถทำหลายอย่าง หรือมีพัฒนาการเหมือนเด็กในวัยเดียวกัน ต่อมาอมีเลียสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว การขับถ่าย รวมถึงการหายใจของเธอแย่ลง ซึ่งแพทย์ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเธอป่วยเป็นโรคอะไร แต่จำแนกว่าเป็นไมโทรคอนเดรียผิดปกติ

ในตอนนั้น อแมนดามีอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น เมื่อเห็นสภาพของอเมเลียที่แย่ลง จึงยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจ เธอแค่เข้าใจว่า อเมเลียแตกต่างจากพี่น้องคนอื่นของเพื่อนๆ “ฉันเห็นว่าเพื่อนๆบางคนมีน้องมาโรงเรียนด้วยกัน แต่สำหรับฉัน ฉันรู้สึกว่าอมีเลียจะไม่มีวันไปโรงเรียนเดียวกันกับฉัน มันก็ส่งผลในช่วงหนึ่ง เพราะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมที่มีพี่น้องที่ไม่ปกติ ฉันคิดว่าทุกคนตอนเป็นเด็กต้องอยากมีคนเล่นด้วย” แต่เมื่อเธอเติบโต ได้เรียนรู้อาการของอมีเลีย จึงเริ่มเข้าใจและรักน้องสาวมากยิ่งขึ้น

หลายคนสงสัยในเมื่อไม่สามารถพูดคุยได้ แล้วสื่อสารกันได้อย่างไร คำตอบคือพวกเขาสื่อสารกับผ่านดวงตา อมีเลียสามารถสื่อสารผ่านการใช้เครื่องติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตา ช่วยให้สามารถสื่อเป็นคำพูดและแม้แต่ประโยคได้ “สำหรับเราแสดงออกด้วยคำพูดและท่าทาง แต่สำหรับอมีเลียสื่อสารด้วยตาเท่านั้น เมื่อคุณมองเข้าไปในดวงตาของเธอ คุณจะเข้าใจเธออย่างถ่องแท้”

อมีเลียขณะใช้เครื่องเพื่อสื่อสารกับพี่สาว

อมีเลียขณะใช้เครื่องเพื่อสื่อสารกับพี่สาว

อแมนดามีความคิดที่จะเรียนแบบโฮมสคูลตั้งแต่อยู่มัธยมปีที่ 2 เพราะต้องการใช้เวลาอยู่บ้านกับน้องสาวให้มากที่สุด แต่พ่อแม่ยังไม่สนับสนุน พวกเขาคิดว่ามันยังไม่แน่นอนสำหรับอนาคตของลูกสาว แต่ความคิดของพ่อแม่ก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอพูดว่า“เรามีเวลาอยู่กับอมีเลียไม่มาก” จึงทำให้พ่อแม่ยอมรับการตัดสินใจของเธอ

อแมนดาเรียนโอมสคูลมาสามปีแล้ว เธอไม่รู้สึกว่าพลาดช่วงชีวิตแบบวัยรุ่นแม้แต่น้อย “ฉันไม่คิดว่าฉันจะพลาดอะไรไปเลย ฉันมีความสุขมาก เมื่ออยู่ใกล้อมีเลีย และความสุขนี้ฉันจะไม่นำไปเปรียบเทียบกับความสุขอื่นที่ฉันมีกับเพื่อนๆ มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”

อแมนดากำลังป้อนอาหารให้อมีเลีย

สำหรับแผนการในอนาคต ตอนนี้อแมนดาเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว และกำลังเลือกที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในท้องถิ่นหรือมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ เพราะเธอไม่อยากอยู่ห่างจากครอบครัว เมื่อถูกสอบถามถึงการเรียนต่อต่างประเทศ เธอบอกว่าแค่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นไปตามที่พระเจ้ากำหนด ในตอนนี้เธออยากจะใช้เวลาอยู่ร่วมกับอมีเลียมากที่สุด และหวังว่าจะใช้เรื่องราวชีวิตของอมีเลียให้ความรู้แก่ผู้อื่นอีกด้วย

“ฉันอยากให้คนทั่วไปรู้ว่า เด็กๆเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะพิการ แต่ในชีวิตของพวกเขาก็สามาถประสบความสำเร็จได้ พวกเขาสามารถอวยพรผู้อื่นด้วยวิธีพิเศษของพวกเขา แม้แต่เราในฐานะ ‘มนุษย์ธรรมดา’ ก็ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะพวกเขาพิเศษมาก”

ขอบคุณที่มา mothership

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน