เกาหลีปะทะจีนอีกรอบ ในศึกแย่งชิงกิมจิ! หลังยูทูบเบอร์สายกินชาวเกาหลีพูดว่า ‘กิมจิคืออาหารเกาหลี’ ทำแฟนคลับจีนไม่พอใจ จนสุดท้ายบริษัทจีนยกเลิกสัญญา
mukbang หรือ ม็อกบัง มีจุดกำเนิดมาจากเกาหลีใต้เป็นการรวมคำระหว่าง Muk da ที่แปลว่ากิน กับคำว่า Bangsong ที่แปลว่าการถ่ายทอดสด จนกลายเป็นความหมายใหม่ว่า “การรับชมการถ่ายทอดสดการกินอาหารจำนวนเยอะ ๆ “ แน่นอนว่าผู้ที่ทำจะไม่ได้เพียงความอิ่มอร่อยเท่านั้น เพราะมันยังสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
เมื่อวันที่ 19 มกราคม เว็บไซต์ AllKpop ของเกาหลีรายงานว่า แฮมจียูทูเบอร์ม็อกบัง ชื่อดังชาวเกาหลีใต้ ซึ่งมีคนกดติดตามในยูทูบมากถึง 5.3 ล้านคน ได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอได้ถูกบริษัทเอเจนซีของจีน เตือนว่าเธอทำผิดข้อบังคับในสัญญา หลังจากพูดว่า ‘กิมจิ’ เป็นอาหารเกาหลี
ต้นเรื่องมาจากเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา แฮมจี ได้โพสต์คลิปวิดีโอ กิน ‘ซัม’ (ผักห่อเนื้อสัตว์กินกับเครื่องปรุงรส) บิบิมบับ ปลาหมึก และ กิมจิ ลงในช่องยูทูบของเธอ ซึ่งแฟน ๆ ที่ติดตามช่องของเธอ ทั้งชาวเกาหลีและจีน ได้ถกเถียงกันอย่างร้อนแรง เนื่องจากแฮมจีได้เข้าไปกดไลก์ข้อความหนึ่ง ที่เขียนไว้ว่า “ฉันรู้สึกโกรธมาก เวลาที่คนจีนบอกว่า ซัม เป็นอาหารของพวกเขา แต่รู้สึกดีใจมาก ที่คุณได้โพสต์คลิปกินผักห่ออาหารนี้”
- อ่าน จีน ปะทะ เกาหลีใต้ เถียงกันสนั่นโซเชียล ศึกกิมจินี้ใครครอง?
- อ่าน ศึกกิมจิเดือดอีก เกาหลีโวยลั่น เน็ตไอดอลสาวโพสต์ทำ “อาหารจีน”
ทำให้กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตจีนโกรธเคือง เพราะเข้าใจว่าแฮมจีได้กระทำการเหยียดหยามชาวจีน จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในโซเชียลมีเดียของจีน จนทางต้นสังกัดของเธอที่เป็นสัญชาติจีนต้องออกมาขอโทษ แต่ก็ยังไม่หยุดเท่านั้น
ไม่นานหลังจากนั้นแฮมจีก็ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า “ที่กดไลก์คอมเมนต์ดังกล่าว เพราะมันเขียนเริ่มต้นด้วยคำว่า ‘ซัม’ และที่ไลก์ก็เพราะฉันเชื่อว่า ‘กิมจิ’ และ ‘ซัม’ เป็นอาหารของเกาหลี และฉันว่ามันแปลกมาก ๆ ที่มีคอมเมนต์โต้เถียงว่าเป็นของใครกันแน่ ระหว่างจีน หรือเกาหลี ทั้งที่ความจริงมันก็ปรากฏอยู่แล้ว”
จากนั้นเธอก็ได้อธิบายว่าเอเจนซี่จีนที่ช่วยเธอจัดการช่องของเธอในจีนนั้นได้ยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 17 มกราคม เนื่องจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นกระทบกระเทือนต่อจิตใจของประชาชนชาวจีนเป็นอย่างมาก เธอได้ทำร้ายความรู้สึกของแฟน ๆ ชาวจีนและทำลายความไว้วางใจของบริษัท
แฮมจี ได้ออกมาอธิบายถึงสถานการณ์ดังกล่าว และขอโทษกับความเข้าใจผิดในครั้งนี้ ที่ทำให้แฟนๆชาวจีนต้องรู้สึกผิดหวัง แต่เธอก็ไม่ต้องการจะโปรโมทที่จีน หากว่าต้องพูดว่า กิมจิเป็นของคนจีน “หากต้องพูดว่า กิมจิเป็นของคนจีนเพื่อจะได้โปรโมทที่จีนแล้ว งั้นขอเลือกที่จะไม่โปรโมทที่จีนเลยดีกว่า ฉันหวังว่าชาวเน็ตจีนจะเข้าใจว่ายูทูเบอร์ชาวจีนหรือคนดังไม่จำเป็นต้องพูดว่า ‘อาหารจีนเป็นอาหารเกาหลี’ เพื่อจะได้โปรโมทที่เกาหลี”
ที่มา : allkpop
