แปลงที่รกร้าง จากบ้านพักคนชรา เป็นเวทีจัดแสดงงานศิลปะ ชมฟรีในงาน ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ จ.โคราช

“เวนิซเบียนนาเล่ เป็นหนึ่งในนิทรรศการของศิลปะร่วมสมัยที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก และใช้เวลาหลายปี กว่าจะประสบความสำเร็จ และเป็นต้นแบบให้งานศิลปะร่วมสมัยให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก รวมถึงงาน “ไทยแลนด์ เบียนนาเล่” ในปี 2021”

จิอาโคโม ซากาเนลลี (Giacomo Zaganelli) ศิลปินร่วมสมัยและภัณฑารักษ์ผู้เชี่ยวชาญการจัดแสดงศิลปะในเชิงพื้นที่ ประเทศอิตาลี เกริ่นถึงการจัดแสดงศิลปะ ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ ที่จัดแสดงอยู่ ที่จ. นครราชสีมา ขณะนี้

จิอาโคโม กล่าวว่า ในฐานะศิลปินที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงผลงานศิลปะ “ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ ที่จ.นครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างมาก เนื่องจากทราบว่าประเทศไทยมีเป้าหมายจะผลักดันเมืองศิลปะร่วมสมัยให้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง

ซึ่งได้แก่ จ.กระบี่ที่ เคยเป็นเจ้าภาพงานดังกล่าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จ.เชียงราย ซึ่งล่าสุดได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นอีกหนึ่งเมืองสร้างสรรค์แห่งใหม่ของประเทศไทย รวมถึง จ.นครราชสีมา ที่มีประวัติศาสตร์และงานศิลปะในหลายแขนง เช่น ภาพเขียนสีโบราณ กลุ่มโบราณสถานที่น่าสนใจ

และการจัดงานครั้งนี้ยังมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เกิดพื้นที่ศิลปะเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปให้มีความรู้ ความเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย

ตลอดจนยังจะได้ใช้บทบาทของศิลปินช่วยฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ และความมีชีวิตชีวาของเมืองและผู้คนให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

จิอาโคโม กล่าวต่อว่า ในส่วนของงานศิลปะที่นำมาร่วมจัดแสดงในปีนี้อยู่ภายใต้คอนเซปต์ “สมเสร็จ : SOMSEDTEMPORARY CULTURAL CENTER” ซึ่งเป็นชื่อสัตว์ที่เชื่อกันว่าพระเจ้าได้สร้างสัตว์ดังกล่าวจากอวัยวะสัตว์ประเภทต่าง ๆ จนกลายเป็นสมเสร็จ

และชื่อสมเสร็จในภาษาไทย เมื่อแปลความหมายแล้วยังหมายถึงความสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ สมเสร็จยังเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า

เมื่อนำแนวคิดทั้งหมดมาเชื่อมโยงกับงานศิลปะของตนก็จะเป็นภาพสะท้อนที่จะทำให้ทุกคนทราบว่าสิ่งที่จะช่วยเติมเต็มให้ศิลปะร่วมสมัยมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นคืออะไร

และจากแนวคิดทั้งหมดจึงได้เลือกที่จะนำเสนอ “การสร้างประโยชน์ให้พื้นที่รกร้าง” ด้วยการแปลงเป็นสถานที่ในการจัดงานศิลปะ ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญในการเติมเต็มการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้มีคุณค่าและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดในปัจจุบันและในอนาคต

“พื้นที่ทางศิลปะมีผลอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของประชากร ซึ่งจะสังเกตได้ว่าในแถบทวีปยุโรป หรือในหลาย ๆ ประเทศให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่เพื่อรับชม หรือเปิดโอกาสให้ศิลปินมีเวทีในการแสดงออกผลงานในแขนงต่าง ๆ กันเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ในโลกยุคใหม่การสร้างพื้นที่ใหม่ ๆ อาต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง และเกิดการสิ้นเปลืองทางทรัพยากร จึงทำให้ช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมานี้เกิดเทรนด์ของการแปลงสถานที่รกร้าง หรือพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาเป็นสถานที่เพื่อจัดแสดงงานศิลป์

และบรรดาผู้คนในแวดวงศิลปะ นักคิด นักเขียน ฯลฯ ก็ต่างพยายามสร้างสรรค์ผลงาน กิจกรรมโดยใช้พื้นที่ดังกล่าวถ่ายทอดไปสู่สาธารณชน ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดประโยชน์ที่มากขึ้นแล้ว ยังต่อยอดไปสู่

การเป็นพื้นที่ทางธุรกิจ หรือสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ และยังเป็นการสร้างพื้นที่ให้กับคนรุ่นต่าง ๆ ที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้รับความสนใจมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับสถานที่ที่จะใช้จัดแสดง “สมเสร็จ : SOMSED TEMPORARY CULTURAL CENTER” จะใช้พื้นที่ของอดีตบ้านพักคนชรา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณประตูพลล้าน จะถูกดัดแปลงให้เป็นศูนย์วัฒนธรรมชั่วคราวที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมศิลปะต่าง ๆ ได้ฟรี

ไม่ว่าจะเป็น การแสดงคอนเสิร์ต การจัดกิจกรรมเวิร์กช็อป นิทรรศการของศิลปินและช่างฝีมือท้องถิ่น อีสาน – ต่างประเทศ รวมถึงนิทรรศการไฮไลท์ “กิจกรรมศิลปะเพื่อสังคม” ที่เหมาะสำหรับบริบทของประเทศไทยในศตวรรษที่ 21

โดยในส่วนหลังจะเป็นการบรรยายให้เห็นถึงความหลากหลายที่มีอยู่ของศิลปะและวัฒนธรรมกับบทบาทการเป็นเครื่องมือรังสรรค์สังคม รวมถึงจะมีการแบ่งปันระบบสารสนเทศ – ฐานข้อมูลที่จำเป็นต่อการสร้างมูลค่าให้แก่แบรนด์ศิลปะไทย

นอกจากนี้ การมาเมืองไทยและร่วมจัด ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ ยังจะใช้พื้นที่ในการเผยแพร่แนวคิดของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี หรือ Mr. Corrado Feroci บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยประเทศไทย และเป็นผู้ที่เกิดจากเมืองเดียวกัน คือเมืองฟลอว์เรนซ์ อิตาลี ในการนำองค์ความรู้หรือวิสัยทัศน์ด้านศิลปะให้ทุกคนที่เข้าร่วมได้นำไปสร้างประโยชน์ต่อชุมชนและประยุกต์ใช้กับการทำงาน

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ทางศิลปะกับการจัดแสดง “สมเสร็จ : SOMSED TEMPORARY CULTURAL CENTER” มาร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะและความชื่นชอบงานกิจกรรมดังกล่าวได้ระหว่างวันที่ 18 ธันวาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

สำหรับจิอาโคโม เป็นศิลปินชาวอิตาเลียน จากเมืองฟลอว์เรนซ์ สนใจเรื่องบริบทสังคม วัฒนธรรมและมิติการใช้พื้นที่สาธารณะ จึงเกิดไอเดียในคอนเซปต์ “Collective and Community” นำพื้นที่ร้าง พื้นที่ว่างเปล่า ทรัพยากรธรรมชาติและ ภูมิประเทศ มาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในเชิงพื้นที่ และรังสรรค์สังคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทำให้พื้นที่ว่างเปล่า รกร้าง กลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ สถานที่ทำกิจกรรม สถานที่พักผ่อนในเชิงวัฒนธรรม จนเป็นชุมชน (community) หรือ แลนด์มาร์คที่สำคัญต่างๆ

ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา จิอาโคโม เดินทางสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งในประเทศอิตาลี ในประเทศแถบทวีปยุโรปและเอเชีย ผลงานที่โดดเด่น ได้แก่ N.A.T.P.L.E_NON A TUTTI PIACE L’ERBA (Largo Annigoni, Florence, Italy 2008), GRAND TOURISMO (Uffizi Galleries, Florence, Italy 2018-2019), SUPERFICIALLY (MOCA Taipei 2018), FLUIRE (Setouchi Triennale, Japan 2019) และ GRAND TOUR d’ITALIE (Musuem of Modern Art Bologna, Italy 2019)

และในปี 2020 จิอาโคโม ซากาเนลลี ยังได้รับรางวัลจาก The Italian Council ในสาขา The Most Important Acknowledgement for Italian Artist โดย กระทรวงวัฒนธรรมอิตาลี และการมาร่วมงาน “ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ 2021” ของ จิอาโคโม ซากาเนลลี ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในการร่วมงานกับประเทศไทย

ผลงานจัดแสดงถึง 31 มีนาคม 2565 สนใจเข้าชมฟรี ที่บ้านพักคนชรา บริเวณประตูพลล้าน สอบถามรายละเอียดที่ https://www.facebook.com/SomsedTemporaryCulturalCenterKorat

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน