สาวน้ำตานอง พ่อแม่รุมต่อว่า-หยุดเพ้อฝัน ตื่นมาอยู่กับความจริง เพราะคิดว่าเรียนจบนิเทศศาสตร์อาจหางานยาก แถมเจอคำพูดสุดท้ายพีก

หลาย ๆ คนอาจเคยเจอปัญหาการเลือกเรียนระหว่างสายวิทย์และสายศิลป์ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่รู้ความฝันและเป้าหมายที่จะประกอบอาชีพของตนเองในอนาคต อีกทั้งบางครั้งการเลือกเรียนยังมีกรอบสังคมบางอย่างที่ให้ค่าทั้งสองสายไม่เท่ากัน โดยผู้ปกครองหลายท่านมักจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนของลูก ๆ ด้วย

ดังคลิปกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ ที่ผู้ใช้ติ๊กต็อก kaitlynnbui โพสต์เรื่องราวของตนเองเกี่ยวกับการเรียนคณะศิลปศาสตร์ เอกนิเทศศาสตร์ แต่พ่อแม่มองว่าสิ่งที่เธอเลือกเรียนนั้นไม่ดีพอ เนื่องจากวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์มักถูกคิดว่า ‘มีประโยชน์’ มากกว่า

ภาพจาก kaitlynnbui

เคทลีน หญิงชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในออเรนจ์ เคาน์ตี ลอสแองเจิลลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แบ่งปันวิดีโอการสนทนากับพ่อแม่ระหว่างการทานอาหารเกี่ยวกับการเรียนนิเทศศาสตร์ ที่แทบจะกินน้ำตาแทนข้าว โดยวิดีโอเริ่มต้นด้วยสาวนั่งน้ำตาคลอเบ้ากำลังทานอาหารร่วมกับพ่อแม่ของเธอ ซึ่งบ่งชี้ว่าการสนทนาที่ไม่สบายใจเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว

ในภาษาเวียดนาม แม่ของเธอถามเธอว่าเธอตั้งใจจะวางแผนเลี้ยงชีพตัวเองหลังจบการศึกษาอย่างไร ทำให้เธอพูดเล่นอย่างประชดว่า “หนูจะหาสามีที่ร่ำรวย” แต่แม่ของเธอนั่นไร้อารมณ์ขันตอกกลับมาอย่างรุนแรงว่า “ลูกทั้งตัวเล็กและเตี้ย ทำอะไรก็ไม่เป็น ลูกเทียบกับคนอื่นไม่ได้เลยสักนิด อย่ามาพูดเรื่องแต่งงานกับคนรวย” ก่อนพ่อจะพูดแทรกถามว่า “ทำไมลูกถึงเลือกวิชาเอกนี้”

ภาพจาก kaitlynnbui

เคทลีนตอบว่า เธอก็ทำงานเป็น Post Production นั่งในห้องและทำงานตัดต่อ จากนั้นเธอก็ทนไม่ไหวน้ำตาไหล พร้อมกล่าวว่า “ปล่อยหนูไว้คนเดียวเถอะ เพื่อหนูจะคิดออก” เคทลีนเริ่มร้องไห้ต่อหน้ากล้อง พ่อแม่ของเธอยังคงตำหนิเธอโดยบอกกับเธอว่า มันคงยากสำหรับเธอที่จะเอาชีวิตรอดกับอาชีพนี้ ซ้ำพ่อยังกล่าวว่า “นั่งคิดเรื่องนี้ ตื่นได้แล้ว หยุดฝัน และอยู่กับความเป็นจริง”

นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็มีชาวติ๊กต็อกเข้ารับชมถึง 10.5 ล้านวิว พร้อมแห่เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจนับพัน พร้อมยกย่องเธอในการไล่ตามความฝัน แม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะคัดค้านก็ตาม ซึ่งหลาย ๆ คนสนับสนุนให้เธอเลือกทำอาชีพที่อยากทำต่อไปและกล่าวว่าสิ่งที่ทำให้มีความสุขของเธอสำคัญกว่า

ภาพจาก kaitlynnbui

ล่าสุด เมื่อ 12 เม.ย. เคทลีนได้อัปเดตวิดีโออีกครั้ง โดยกล่าวว่า “ฉันกำลังจะเรียนจบในเดือนหน้า แต่ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าอนาคตของฉันจะทำอะไรดี ดังนั้น เมื่อพ่อแม่ของฉันถามคำถามที่ฉันถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันก็เลยพยายามปกป้องตนเองจึงตอบสนองได้ไม่ดี ทั้ง ๆ ที่ฉันก็รักพ่อกับแม่มาก”

พร้อมทั้งเปิดใจคุยกับพ่อแม่ โดยกล่าวว่า เมื่อครั้งก่อนที่คุยกัน เธอเข้าใจที่พ่อแม่เป็นห่วง สิ่งที่เธอทำไปนั้นไม่ถูกจึงขอโทษพ่อกับแม่ ทางแม่กล่าวว่า “เราแค่อยากรู้การวางแผนในอนาคตของลูก แม่บอกลูกตั้งแต่แรกแล้วว่า ตอนนี้หางานยาก แต่ถ้าลูกอยากทำ แม่ก็พร้อมสนับสนุนเสมอ”

ภาพจาก kaitlynnbui

“ตอนนั้นลูกอยากได้เลนส์กล้องใหม่ เราก็ซื้อเลนส์กล้องตัวใหม่ให้ ตอนลูกอยากได้กล้อง พ่อก็ซื้อกล้องให้ลูกทุกรอบ เราไม่อยากให้ลูกกลายเป็นคนดังหรือหาเงินได้เยอะ ๆ ลูกทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ลูกมีความสุข แต่ลูกต้องดูแลตัวเองและครอบครัวได้ ลูกเข้าใจใช่มั้ย”

“ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ไม่เชื่อมั่นในตัวลูก แต่เพียงแค่ว่า คำตอบของลูกมันไร้แก่นสาร แม่คิดว่าลูกเขียนเก่งก็ควรไปเขียนหนังสือ แม่บอกลูกหลายรอบแล้ว ไปเขียนหนังสือสิ แม่ช่วยลูกเอง”

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่มีบทบาทสำคัญในชีวิตของลูก โดยมักจะให้คำแนะนำที่จำเป็นขณะเผชิญกับความท้าทายตลอดทางที่ลูกเลือกเดิน แม้ว่าคำแนะนำจะมีประโยชน์ แต่หากการกระทำหรือคำพูดบางครั้งอาจขัดขวางความสุขของลูก ยิ่งพูดรุนแรงอาจเป็นอันตรายแม้ว่าจะหวังดีก็ตาม เพราะคำพูดที่รุนแรงดังกล่าวสามารถทิ้งรอยแผลเป็นที่ไม่มีวันหายฝังลึกลงไปในจิตใจคนส่งผลต่อสุขภาพจิตได้

@kaitlynnbuilive laugh love♬ Just a Cloud Away – Pharrell Williams


ขอบคุณที่มาจาก Tiktok

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน