คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
เรียน น้าชาติ ประชาชื่น
อยากทราบว่าเพราะเหตุใดคนจีน ญี่ปุ่น เกาหลี จึงอ่านหนังสือจากด้านหลังไปด้านหน้า และมีชาติอื่นๆ อีกไหมที่อ่านเช่นนี้ มีเด็กถามแล้วยังตอบไม่ได้
ขอขอบพระคุณ
ผู้รู้น้อย
ตอบ ผู้รู้น้อย
วัยรุ่นที่อ่านการ์ตูนมังงะ (manga) ของญี่ปุ่น คงจะสังเกตวิธีอ่านหนังสือจากด้านหลังไปด้านหน้า หรือจากขวาไปซ้าย ซึ่งแตกต่างจากหนังสือบ้านเรา ส่วนคนที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อยคงเห็นจากตำราจีน และแฟนเพลง-ซีรีส์เกาหลี เห็นได้จากสมุดภาพดาราคนโปรด
ความแตกต่างนี้ทำให้ผู้ผลิตหนังสือในไทยต้องปรับการวางหน้าใหม่ โดยเฉพาะกับมังงะ ช่วงแรกๆ ที่รับมาผลิต บางสำนักพิมพ์กลับหน้าการ์ตูนให้อ่านแบบฝรั่ง คือจากซ้ายไปขวาแทน ผลที่ตามมาคือตัวการ์ตูนเหมือนอยู่ในกระจก ตัวการ์ตูนที่ถนัดมือซ้ายกลับใช้มือขวาเขียนหนังสือ เป็นต้น
ต่อมาผู้ติดตามอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นจึงเรียกร้องให้รักษาลักษณะพิเศษของการ์ตูนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ จนในระยะหลังสำนักพิมพ์ต่างๆ ไม่กลับหน้าการ์ตูนเหล่านี้แล้ว ให้อ่านแบบเดียวกับในญี่ปุ่น
เรื่องของเรื่องก็คือภาษาต่างๆ ในโลกล้วนสืบสายมาจากภาษาตระกูลใหญ่ๆ เช่น ภาษาตระกูลเอเชียตะวันออก แตกแขนงเป็นภาษาจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี
ภาษาตระกูลเอเชียตะวันออกมีระบบตัวอักษรแบบหนึ่งตัวแทนหนึ่งคำ ไม่ใช่หนึ่งตัวแทนหนึ่งตัวอักษรอย่างภาษาไทยหรืออังกฤษ
นอกจากนี้ การเขียนตัวอักษรในภาษาตระกูลนี้ในสมัยโบราณก็เขียนแบบ ?แนวตั้ง? เมื่อหมดบรรทัดหนึ่งก็ขึ้นบรรทัดต่อไปทางซ้ายมือ ดังนั้น การจัดหน้าของภาษาญี่ปุ่น จีน และเกาหลีจึงเป็นขวาซ้าย อ่านจากหลังมาหน้า
เมื่อชาติตะวันตกเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคเอเชียตะวันออก พร้อมนำเทคโนโลยีการพิมพ์แบบตะวันตกเข้ามาด้วย ทำให้การจัดหน้าเริ่มมาเป็นแบบ ?แนวนอน? แต่ชาติตะวันออกยังรักษาการพลิกหน้าแบบขวาไปซ้ายไว้
ปัจจุบันหลายสำนักพิมพ์เปลี่ยนมาเป็นแบบซ้ายไปขวาตามแบบตะวันตก แต่สิ่งพิมพ์อย่างการ์ตูนญี่ปุ่นยังรักษาการพิมพ์แบบเดิมไว้เป็นเอกลักษณ์
อารยธรรมเอเชียตะวันออกไม่ใช่แห่งเดียวในโลกที่มีทิศทางพลิกหน้าหนังสือจากขวาไปซ้าย
มีหลักฐานว่าภูมิภาคเมโสโปเตเมีย อารยธรรมเก่าแก่ของโลกอีกแห่งหนึ่ง (ปัจจุบันคือตะวันออกกลาง) ริเริ่มการเขียนตัวอักษรเป็นชาติแรกๆ และยังมีลักษณะตัวอักษรแนวนอน แต่เป็นแบบ ?ขวาไปซ้าย? ผู้สืบทอดภาษาตระกูลนี้ในปัจจุบันคือภาษาฮีบรู ที่ใช้ในประเทศอิสราเอล และภาษาอาหรับ ใช้ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ทั้งยังเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอิสลามอีกด้วย
สิ่งพิมพ์ในภาษาฮีบรูและอาหรับจึงจัดหน้าจากขวาไปซ้าย เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นนั่นเอง
ประวัติศาสตร์ภาษาของโลกเป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะทำให้เราเข้าใจความแตกต่างของวัฒนธรรม แต่ขณะเดียวกันทำให้เราสังเกตด้วยว่าวัฒนธรรมของโลกก็มีความใกล้เคียงเป็นกลุ่มๆ เช่นกัน อย่างภาษาอาหรับและภาษาฮีบรู
เคยมีภาพยนตร์แนวสันติภาพในตะวันออกกลางเรื่องหนึ่งชื่อ ?เดอะ แบนด์ วิสิต? ที่ขึ้นรายชื่อนักแสดงและผู้สร้าง (เครดิต) ตอนจบเป็นภาษาอาหรับและฮีบรูเคียงคู่กัน เพื่อให้ผู้ชมตระหนักว่าถึงแม้ทางการเมืองโลกอาหรับและอิสราเอลจะขัดแย้งกัน แต่ทั้งสองชนชาติก็มีรากวัฒนธรรมเดียวกันดังพี่และน้อง