หลาก&หลาย - ‘สมศักดิ์’หนุนโคแสนล้าน แก้จน-ยกระดับชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนโครงการ “โคแสนล้าน” อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายโอกาสสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกร

ล่าสุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเสวนาสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเลี้ยงโค ภายใต้แนวคิด “เลี้ยงโค แก้หนี้ แก้จน ยกระดับคุณภาพชีวิต เกษตรกรไทย”

โดยมี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายรัฐโรจน์ โรจน์ธนาดำรงค์ สัตวแพทย์อาวุโส หัวหน้าด่านกักกันสัตว์พิจิตร กองสารวัตรสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ และนายธนูศร ปัญญาสาร ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จังหวัดนครพนม ร่วมพูดคุย มีผู้เข้าร่วมเสวนาจำนวนมาก ทั้งในห้องประชุม และผ่านระบบออนไลน์ ที่ห้องประชุม อาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด

นายสมศักดิ์กล่าวเปิดงานว่า ตนมีแนวคิดที่จะแก้ปัญหาของชนบทมากว่า 20 ปี เพราะตนเกิดในชนบท สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการสร้างความเข้าใจในโครงการที่เราจะทำให้ชาวบ้านและคนเมืองรับรู้ เพราะหากสังคมเมืองไม่เห็นด้วยจะไม่สามารถทำได้ ดังนั้น ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้โอกาสกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ มาทำความเข้าใจในเรื่องการเลี้ยงโค

ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะขับเคลื่อนโครงการเลี้ยงโคทั่วประเทศ โดยโครงการส่งเสริมเลี้ยงโค ตนเชื่อว่าจะช่วยส่งผลต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ

การส่งเสริมเลี้ยงโคของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติจะเริ่มด้วยเงิน 50,000 บาท ให้เกษตรกรกู้ โดยมีดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริม เพราะจากโครงการเลี้ยงวัวนำร่องที่จังหวัดสุโขทัย เริ่มต้นด้วยเงิน 50,000 บาท ซื้อแม่พันธุ์วัว 2 ตัว ผ่านมา 4 ปี เกษตรกรมีวัวเพิ่มเป็น 10 ตัวแล้ว ถ้าคิดเป็นมูลค่า วัวตัวละ 25,000 บาท หากมี 10 ตัวจะมีมูลค่าถึง 250,000 บาท และถ้าส่งเสริมเลี้ยง 1 ล้านครอบครัว จะมีมูลค่าถึง 250,000 ล้านบาท

นอกจากการเลี้ยงวัวธรรมดาแล้ว ตนยังได้ส่งเสริมการพัฒนาเลี้ยงวัวที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น วัวโกเบ วัวบราห์มัน วัวทาจิมะ วัวแองกัส รวมถึงต่อยอดเป็นการเลี้ยงวัวกีฬา เพราะวัวธรรมดามีราคา 25,000-50,000 บาท แต่วัวสายพันธุ์ดีมีราคาถึงตัวละ 200,000 บาท

การส่งเสริมเลี้ยงวัวยังเป็นการรองรับที่รัฐบาลช่วยสร้างโอกาสขยายตลาดการส่งออกโคไปต่างประเทศด้วย โดยเป็นการทำควบคู่กันไป รวมถึงถ้ามีการส่งเสริมเลี้ยงโค 1 ล้านครอบครัว ผ่านไป 4 ปีมีการวิเคราะห์ว่า จีดีพีประเทศจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.4% ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย

“ผมได้พูดคุยถึงโครงการดังกล่าวกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งท่านจะหาตลาดมารองรับเกษตรกร นอกจากนี้ ผมยังมีงบประมาณตรวจเขตราชการในจังหวัดละ 10 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาช่วยอบรมการแก้ปัญหาความยากจนและส่งเสริมอาชีพ เพราะสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ 13 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นหนี้ ผมจึงเน้นให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ คิดโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเพื่อให้สมาชิกมีรายได้เพียงพอในการใช้หนี้ได้ และผมจะส่งเสริมเรื่องทำใบเพ็ดดีกรีเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สัตว์ด้วย” นายสมศักดิ์กล่าว

จากนั้นได้เข้าสู่เสวนา โดยนายเบญจพลได้พูดถึงการทำโครงการนำร่องมา 3 โครงการ ว่าที่ผ่านมามีอัตราความสำเร็จกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ มีอัตราโคตกลูกกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โครงการโคแสนล้านที่กำลังจะทำ เราหาแหล่งเงินกู้ให้ชาวบ้าน 50,000 บาทต่อครัวเรือน ให้ชาวบ้านนำวัวไปเลี้ยง 2 ตัว จากนั้นเราจะดูแลเรื่องการผสมเทียม และเรื่องต่างๆ ให้ เป้าหมายคือ 100,000 ครัวเรือน หากโครงการนี้ผ่านครม.นำมาสู่การเสวนาวันนี้ที่เราจัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในโครงการดังกล่าว

ด้านนายธนูศรกล่าวว่า ตนเคยเป็นเกษตรกร ปลูกมาหลายอย่าง แต่การเลี้ยงวัว เราสามารถกำหนดราคาเองได้ การเลี้ยงวัวชาวบ้านมักจะเลี้ยงแบบไม่มีความรู้ แต่เราต้องเลี้ยงแบบมีองค์ความรู้ วัวไม่ได้ราคาถูก มีวัวหลายสายพันธุ์ที่ราคาสูง เลี้ยงวัว 3 ปี จากนั้นปีที่ 4 วัวจะเลี้ยงเรา

ตนไม่ได้เพียงเลี้ยงวัว แต่ขายมูลสัตว์ตากแห้งด้วย ทำขี้วัวอัดเม็ดมีคุณภาพขายรายวัน การขายวัวคือสิ่งสุดท้าย วัวให้ชีวิต ไม่มีสิ่งไหนที่ออกไปจากวัวทำลายธรรมชาติ การเลี้ยงโคไม่มีทางขาดทุน

นายรัฐโรจน์กล่าวว่า โครงการต่างๆ ที่รัฐบาลส่งเสริมการเลี้ยงวัวแล้วไม่ประสบความสำเร็จเพราะเป็นโครงการให้ฟรี หรือให้ยืม แต่โครงการนี้ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นโครงการให้กู้ ผู้ที่เข้าร่วมเป็นผู้ที่ต้องการจริงๆ เป็นการสร้างวินัย ถ้าให้เปล่าชาวบ้านจะไม่มีวินัยในการเลี้ยง การเลี้ยงวัวเป็นสิ่งที่ต้องใช้วินัย เพราะสัตว์ต้องกินต้องอยู่ทุกวัน

“การเลี้ยงวัวไม่ยาก ผมอยากให้มีการอบรมให้ความรู้เบื้องต้น ผู้ที่จะเลี้ยงวัวควรไปติดต่อที่ปศุสัตว์อำเภอ ขึ้นทะเบียนวัว ตรวจโรคให้เรียบร้อย บางโรคสามารถติดคนได้ ดังนั้นต้องตรวจโรคก่อน โรคในวัวจะแบ่งเป็นสองอย่างคือ โรคที่เกิดจากเชื้อโรคและโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค โรคที่ต้องเฝ้าระวังในการเลี้ยงวัวคือโรคปากเท้าเปื่อย โรคลัมปีสกิน” นายรัฐโรจน์กล่าวทิ้งท้าย

โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคของเกษตรกรได้นำร่องไปแล้วที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี มีความมุ่งหวังว่า

“โครงการดังกล่าวจะช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และแก้หนี้ให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป”