ละลานตา ไฟน์อาร์ต ชวนสัมผัสผลงานศิลปะจาก 4 ศิลปิน BannanaManz, BUTTERRABBITZ & SURREALRABBITZ, เอกรัตน์ อรุณรัตน์ และ พิชญ์ แตงพันธ์ ในนิทรรศการกลุ่มภายใต้ชื่อ “Alter Ego” สะท้อนตัวตนที่สัมผัสได้เมื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ ศิลปินเลือกใช้เทคนิคการนำเสนอ รูปแบบ และมีแนวคิดที่แตกต่างกันไป เพื่อค้นพบและทำความรู้จักตัวตนด้านต่างๆ เผยความหลากหลายทางความคิดที่มาของแรงบันดาลใจ ทักษะในการสร้างสรรค์ มิติภายใน ความทรงจำ และความสัมพันธ์ที่มีต่อยุคสมัย

เอกรัตน์ อรุณรัตน์ “Home Sweet Home”
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบคาแร็กเตอร์โดยสร้างผลงานที่น่าทึ่งด้วยเทคนิคที่เรียบง่ายที่สุด อาทิ สีไม้ การย้อนเวลากลับไปสู่อดีตที่ยังคงส่องประกายเรืองรองจนถึงปัจจุบัน การนำสัญลักษณ์และทุกสิ่งที่ชื่นชอบมาหยอกล้อร้อยเรียงเป็นประติมากรรมกึ่งของเล่น กระทั่งการสำรวจพร้อมตั้งสมมติฐานความรู้สึกของผู้หญิงในช่วงเวลาการก้าวผ่านจากเด็กหญิงเป็นหญิงสาว
ผลงานของ BannanaManz (ณัชนนท์ พูนชัย) ยืนยันถึงความหลงใหลในวัฒนธรรมร่วมสมัยและวัฒนธรรมป๊อปผ่านการผสมผสานทุกสิ่งที่ชื่นชอบ อาทิ สัญลักษณ์อันเป็นที่รู้กันของศิลปินดัง เพลงโปรด ร็อกแบนด์ และสไตล์การแต่งกายจากภาพยนตร์ ทั้งหมดนี้ศิลปินรวบรวมนำมาหยอกล้อร้อยเรียงเป็นประติมากรรมกึ่งของเล่น
ผลงาน Bunny Hop : Gun and Rose แก๊งสเตอร์คาแร็กเตอร์สวมชุดลุกส์มาเฟียในสามโทนสีของแผ่นฟิล์ม ขาว-ดำ ซีเปีย และสี มีจำนวนจำกัดเพียงสีละ 5 อิดิชั่น สร้างจินตนาการเป็นเรื่องราวของตัวละครในห้วงเวลาระหว่างกาลก่อนและตอนนี้ พร้อมสะท้อนถึงชีวิตที่มีทั้งความสุขและความเศร้า เรื่องดีและเลวร้ายปะปนกันในทุกวัน

BUTTERRABBITZ“Sonar Dive”
BUTTERRABBITZ & SURREALRABBITZ เป็นชื่อเรียกที่มาจากศิลปินคนเดียวกัน คือ ทราย ชัญญธิดา สร้างผลงานด้วยการใช้สีที่เด็กๆ คุ้นเคยนั่นคือสีไม้ ผสานทักษะที่โดดเด่นแสดงถึงความเชี่ยวชาญผ่านการออกแบบ 99 คาแร็กเตอร์ บวก 1 งานประติมากรรม เชื่อมโยงความรู้สึกทางประสบการณ์ การมองเห็นและการรับรู้ สร้างความสงสัย การตั้งคำถาม สู่ความลึกซึ้งในการเข้าถึงวิธีการและรูปแบบระหว่างผลงานที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์และคอมพิวเตอร์

BannanaManz “Gun and Rose”
ในขณะที่ SURREALRABBITZ สร้างสรรค์บริบทเชิงสุนทรีย์ใหม่ๆ ตามมุมมองของศิลปินเป็นหลัก ผสานองค์ความรู้ทางศิลปะทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ ศิลปะการออกแบบตัวอักษร การสร้างฉากทัศน์ การจัดวางองค์ประกอบศิลป์ ปลุกจินตนาการของตัวเองสู่พื้นที่กว้าง เป็นอิสระและไร้ขอบเขต
เอกรัตน์ อรุณรัตน์ ศิลปิน นักสำรวจ และนักตั้งสมมติฐานความรู้สึกของผู้หญิงในช่วงเวลาการก้าวผ่านจากเด็กหญิงสู่หญิงสาว ผ่านชุดผลงานที่ผสมผสานสัญลักษณ์ของเด็กน้อยและสาววัยแรกรุ่นที่คุ้นเคย อาทิ ชุดว่ายน้ำเฮลโหลคิตตี้สีชมพูและรอยสัก แสดงออกถึงความสดใสในวัยเด็กที่กำลังเปลี่ยนแปรไป พร้อมกับกระบวนการค้นหาตัวตนของหญิงสาวที่กำลังเดินทางไปสู่บทต่อไปของชีวิตเธอ

พิชญ์ แตงพันธ์ “The Adventures of the Clown”
สำหรับ พิชญ์ แตงพันธ์ ศิลปินผู้วาดภาพย้อนยุคบนแผ่นทองเหลืองด้วยเทคนิคการลงสีเฉพาะตัว ศิลปะคือวิธีการใคร่ครวญและให้เนื้อเรื่องกับห้วงกาลเวลาจากวัยเด็กไปสู่ผู้ใหญ่ที่เกิดขึ้นพร้อมการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด เป็นบทพิสูจน์ถึงขอบฟ้าที่เปิดกว้างและอนาคตที่ยังไม่ได้ถูกเขียน รำลึกเป็นคำคมประดับอยู่บนพื้นหลังของผลงานต่างๆ ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ พิกเซลเป็นล้านๆ ส่วนของความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน
ศิลปินทั้ง 4 สร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อเข้าใกล้ความเข้าใจในตัวเองมากขึ้น เชิญชวนเปิดประสาทสัมผัสสู่ความคิดสร้างสรรค์ สะกิดให้สำรวจพรมแดนต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา จัดแสดงที่ ละลานตา @ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก วันนี้ถึง 16 ก.พ. 2568
ประติมากรรม‘วานร’สำรวจฝัน
ปรับโฉมครั้งใหญ่ สยามพารากอนเตรียมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปี ด้วยการเป็น “Grand Stage of The World” นำเสนอประสบการณ์อันเหนือความคาดหมายในมิติต่างๆ เปิดพื้นที่ทั้งอาคารให้เป็น “Arena of Arts” เวทีที่งานของศิลปินไทยและศิลปินทั่วโลกสามารถประลองความงามกันได้ในที่เดียว พร้อมหมุนเวียนผลงานและกิจกรรมใหม่ๆ ตลอดทั้งปี นายสาลวิท สุวิพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่าเราให้ความสำคัญกับการคัดสรรศิลปินชั้นนำจากหลากหลายประเทศ และเลือกชิ้นงานที่สะท้อนเรื่องราวและความเป็นเอกลักษณ์ของสยามพารากอนอย่างพิถีพิถัน ให้ทุกคนสัมผัสถึงเอกลักษณ์และความพิเศษที่แตกต่าง
ทั้งนี้ สยามพารากอน นำงานศิลปะ 10 ชิ้นงานร่วมสมัยจากศิลปินระดับโลกมานำเสนอ ทั้งศิลปินแห่งชาติชาวไทย ศิลปินประติมากรรมไทย ศิลปินชาวฝรั่งเศส เกาหลี อเมริกัน เนเธอร์แลนด์
ผลงานล่าสุด! ประติมากรรมพิเศษ “THE FUTURE IN OUR HAND” โดยศิลปินนักออกแบบระดับโลกชาวสเปน “ไฮเม่ ฮายอน” สะท้อนแนวคิดมุมมองเชิงบวกต่อโลก ทุกคนสามารถสร้างพลังแห่งความหวังและความฝันอันงดงามในอนาคตที่ดีขึ้นได้ ออกแบบรูปปั้นวานรใบหน้ายิ้มละมุน แฝงด้วยความถ่อมตนและอบอุ่นในท่ายืนขนาดความสูง 3.75 เมตร ไฮไลต์คือ “The Reflective Sphere” ประติมากรรมทรงกลมสีทองส่องแสงระยิบระยับในมือวานร เปรียบเสมือนการสำรวจตัวตนถึงความหวังและความฝันของผู้คนที่กำหนดอนาคตที่เป็นจริงได้ด้วยมือของตัวเอง
ร่วมสัมผัสประสบการณ์ผ่านสุดยอดผลงานศิลปะได้ทั่วพื้นที่สยามพารากอน และติดตามผลงานการสร้างสรรค์จากศิลปินแห่งชาติและศิลปินระดับโลกที่จะมาเพิ่มเติมให้ครบ 20 ชิ้น ใน “Siam Paragon’s Arena of Arts” เฉลิมฉลองสยามพารากอนครบรอบ 20 ปี ในเดือนธันวาคมศกนี้