อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม มีวัดที่มีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวสายธรรมในวงกว้างอยู่ 2 แห่ง คือ วัดพุทธประดิษฐ์ ความสำคัญ คือ มีพระพุทธรูปหลวงปู่ใหญ่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์โบราณคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอเชียงยืน ประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดแห่งนี้
วัดป่าหนองชาด จุดเด่นวัดแห่งนี้ คือ มีเสนาสนะที่มีความอลังการเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวประกอบด้วย อุโบสถไม้และวิหารคตหมื่นสมเด็จ
วัดพุทธประดิษฐ์ ตั้งอยู่ที่บ้านโพน ต.โพนทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ตำนานพื้นบ้านเล่าสืบต่อกันมาว่า ชาวบ้านจากเมืองอุบล อพยพมาตั้งบ้านเรือนขึ้นที่บริเวณบ้านโพน เนื่องเพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ และต่อมาได้พบพระพุทธรูปโบราณทำจากศิลาแลง จึงพร้อมใจกันใช้ที่ดินตรงบริเวณนั้นสร้างวัดขึ้น พร้อมกับอัญเชิญพระพุทธรูปโบราณองค์นี้ประดิษฐานเป็นพระประธานประจำวัด
จนถึงปี พ.ศ.2484 ช่วงที่พระเลี้ยง ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ขอเปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดพุทธประดิษฐ์ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดใหญ่บ้านโพน ส่วนพระพุทธรูปองค์นี้จะเรียกว่า หลวงปู่พระพุทธรูปใหญ่ เนื่องจากองค์พระพุทธรูปใหญ่มาก วัดพุทธประดิษฐ์
ปัจจุบันพระครูประดิษฐ์วิริยาภรณ์ (หลวงพ่อแฉล้ม) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด
ในช่วงวันหยุด รวมทั้งวันนักขัตฤกษ์จะมีพุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกล เดินทางเข้ามาสักการะกราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันจำนวนมาก
หลวงปู่พระพุทธรูปใหญ่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 1.6 เมตร สูง 2.4 เมตร นักวิชาการบางท่านให้ความเห็นว่า สร้างขึ้นในสมัยขอม แต่เมื่อพิจารณาจากพระพักตร์ ใบหู และยอดเศียร แล้วอายุการสร้างไม่น่าจะเกิน 200 ปี ช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
พระพุทธรูปใหญ่องค์นี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชุมชน และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งใกล้เคียง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองอำเภอเชียงยืน
วัดแห่งที่สองคือ วัดป่าหนองชาด หรือสมญา “วิหารคตหมื่นสมเด็จ” ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 บ้านหัวหนอง ต.ดอนเงิน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม บริเวณวัดแห่งนี้เดิมสภาพเป็นป่าช้า เมื่อหลายปีก่อนได้มีคณะสงฆ์กลุ่มหนึ่งเดินทางมาพักปฏิบัติธรรมที่ป่าช้าแห่งนี้ ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด จึงพากันมาทำบุญถวายภัตตาหารและมาร่วมปฏิบัติธรรม ณ ป่าช้าแห่งนี้ เมื่อจำนวนญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้น จึงเริ่มมีการก่อสร้างเสนาสนะรวมทั้งสาธารณูปโภครองรับ จนเจริญรุ่งเรืองและได้รับการอนุญาตให้เป็นวัดที่ถูกต้องในที่สุด
พระครูเมธีธรรมนันท์ (เมธนันท์ สุเมโธ) หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า พระอาจารย์เบิ้ม ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าหนองชาด
เสนาสนะที่เป็นจุดเด่นเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว คือ อุโบสถไม้ และวิหารคตหมื่นสมเด็จ ที่มีความสวยงามอลังการแปลกตากว่าวัดแห่งอื่นๆ โดยเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2551 สำหรับพระอุโบสถสร้างจากวัสดุไม้พุทธศิลป์ผสมผสานศิลปะ 3 ชาติ คือไทย ลาว และพม่า
เป็นการออกแบบได้สวยงามลงตัวมาก ส่วนผนังรอบอุโบสถจะใช้วัสดุกระจกใสแกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมกับภาพจิตรกรรมพุทธประวัติ ทำให้เกิดความแปลกใหม่กว่าอุโบสถทั่วๆ ไป ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีเหลืองทอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พากันกราบไหว้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ในส่วนของวิหารคต ที่ล้อมอุโบสถ สร้างจากปูนซีเมต์ ทาสีแดงทั้งหลัง จุดเด่นของวิหารคตหลังนี้คือบริเวณผนังทั้งด้านนอกและด้านใน ประดับตกแต่งด้วยปฏิมากรรมนูนต่ำภาพพระสมเด็จ โดยการหล่อครั้งละ 1 ชิ้น จากนั้นได้นำมาติดเรียงกันอย่างสวยงามลงตัว มีการทดลองนับดูปรากฏว่าไม่ต่ำกว่าหมื่นองค์ จึงเป็นที่มาของสมญาวัดนี้ว่า วิหารคตหมื่นสมเด็จ
วัดทั้งสองแห่งในเขต อ.เชียงยืน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่น่าสนใจ
นักท่องเที่ยวทางธรรมไม่ควรพลาดแวะเที่ยวชม
เชิด ขันตี ณ พล