สำนักพิมพ์มติชนชวนย้อนเรื่องราวความสัมพันธ์ไทย-จีน สะท้อนสู่ “เป็นจีนเพราะรู้สึก : ประวัติศาสตร์เสื่อผืนหมอนใบที่เพิ่งสร้าง”
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2518 สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันอาจถูกกล่าวถึงน้อยลง แม้เป็นสิ่งที่สร้างความสงบสุข และสมานฉันท์ในสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง
นิทรรศการจีน-ไทย ก้าวไปด้วยกัน นิทรรศการเพื่อการสร้างแรงบันดาลใจ บนเส้นทางสายสัมพันธ์ที่ทรงคุณค่าพิเศษ ยากจะปรากฏให้เห็นในความสัมพันธ์ระหว่างชาติอื่นๆ
จนทำให้ถ้อยคำ “จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ไม่ใช่เพียงคำพูด แต่คือความจริง ที่สั่งสมผ่านกาลเวลา จากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ความผูกพันทางสายเลือด และความร่วมมือในทุกด้าน ที่ทำให้สองชาติเป็นดั่งญาติสนิทที่ไม่อาจแยกจากกันได้
เจาะลึกปฏิบัติการ 1,326 วัน ฟันฝ่าสถานการณ์ท้าทาย ไทยจับมือจีน ที่ลงมืออย่างปิดลับ พลิกแพลง เสียสละ และการตัดสินใจที่เฉียบขาดของผู้นำ
ย้อนเวลานาทีประวัติศาสตร์ รายงานสดจากปักกิ่งวันที่ 1 ก.ค.2518 ที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ เป็นมรดกทางการทูตที่สร้างความมั่นคง และสันติภาพที่แท้จริง ยิ่งกว่าการสร้างความขัดแย้ง และใช้กำลัง
นายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เดินทางไปถึงกรุงปักกิ่ง ในวันที่ 30 มิถุนายน 2518 และได้เดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลของจีน ที่พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล
นายกฯ โจวยังได้กล่าวยืนยันกับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ว่ารัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเรียกร้องให้ชาวจีนในประเทศไทยที่ถือสัญชาติจีนแปลงสัญชาติเป็นไทยด้วย
เจ้าหน้าที่ไทยกล่าวว่า คำยืนยันของนายกรัฐมนตรีโจว ที่จะเรียกร้องให้คนจีนในไทยแปลงสัญชาติเป็นไทยนี้เป็นท่าทีที่แจ่มใสของการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองเนื่องจากเป็นปัญหาสำคัญปัญหาหนึ่งของฝ่ายไทยในการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครั้งนี้
วันที่ 1 กรกฎาคม 2518 เมื่อมีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ ณ ปักกิ่ง ซึ่งประกอบด้วยข้อตกลง 10 ข้อ โดยข้อที่ 8 ซึ่งมีความยาวที่สุด ระบุความดังนี้
“รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนรับรู้ความเป็นจริงว่านับเป็นเวลาหลายทศวรรษมาแล้วชาวจีนในประเทศไทยได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความปรองดองและไมตรีจิตกับชาวไทยตามกฎหมายไทยตามขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีของชาวไทย โดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศไม่ยอมรับการถือสองสัญชาติ รัฐบาลทั้งสองถือว่าบุคคลสัญชาติหรือเชื้อชาติจีนผู้ได้มาซึ่งสัญชาติไทยย่อมสูญเสียสัญชาติจีนโดยอัตโนมัติใน ส่วนชาวจีนซึ่งทำงานอยู่ในประเทศไทยที่จะเลือกรักษาไว้ซึ่งสัญชาติจีนโดยความสมัครใจของตนเองนั้นรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยปฏิบัติตามนโยบายที่มีมาอย่างสม่ำเสมอจะเรียกร้องให้บุคคลเหล่านั้นปฏิบัติตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยเคารพขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีของชาวไทยและอยู่ร่วมกับชาวไทยอย่างฉันมิตร สิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบุคคลดังกล่าวได้รับการคุ้มครองโดยสาธารณรัฐประชาชนจีนและความรับนับถือจากรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย”
การสถาปนาสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผลให้ชาวจีนในประเทศไทยซึ่งถือใบต่างด้าวจำนวน 3 แสน 6 หมื่นคน จะต้องพิจารณาเลือก การถือสัญชาติว่าจะถือสัญชาติใด ระหว่างการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย หรือถ้ายังต้องการมีสัญชาติเป็นจีนอยู่ต่อไป ก็จะต้องถือสัญชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนจะถือสัญชาติไต้หวันต่อไปไม่ได้
เปิดกรุ E-collection หนังสือโบราณ หายาก อายุรวมร้อยปีกว่า 50 เล่ม ที่ก่อร่างสร้างมรดกภูมิปัญญาสองแผ่นดิน ทั้งวิถีการต่อสู้ ผดุงคุณธรรม ปลุกจินตนาการ การสร้างสรรค์ สังคมใหม่
12 เส้นทางสร้างโอกาส พบกับไอเดียเปลี่ยนโลกจากคนรุ่นใหม่ไทย-จีนที่พร้อมพาทุกคนก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อสร้างบทใหม่แห่งความสัมพันธ์
Highlight พิเศษ : นำชมนิทรรศการโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ
โอกาสพิเศษที่คุณจะได้เดินชมนิทรรศการ พร้อมรับฟังเรื่องราวเบื้องลึกจากนักวิชาการ ถ่ายทอดมุมมองและความรู้ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00-12.00 น.
สมชาย จิว
ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์จีน-ไทย ผู้มีบทบาทยาวนานในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00-12.00 น.
นริศ จรัสจรรยาวงศ์
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ติดตามพัฒนาการของความร่วมมือไทย-จีนมาอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00-12.00 น.
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
นักวิชาการอาวุโส ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาและมีผลงานมากมายในแวดวงวิชาการระดับประเทศ
ปักหมุดไว้ให้แน่น!
ระหว่าง 11-13 กรกฎาคม 2568
จัดที่ True Digital Park ห้อง Classroom 1-3 (อาคาร West ชั้น 2)
ลงทะเบียนร่วมเสวนา/นิทรรศการได้ที่ : https://bit.ly/3Hw6m8Q
มาร่วมเฉลิมฉลองมิตรภาพที่ไม่ใช่แค่เรื่องของสองประเทศ แต่คือเรื่องของผู้คน เรื่องของแรงบันดาลใจ และเรื่องใหม่ๆ ที่จะร่วมสร้างไปด้วยกัน
วิธีเดินทางสู่ True Digital Park
เดินทางรถไฟฟ้า ลงสถานี BTS สถานีปุณณวิถี เมื่อถึงสถานี ใช้ทางออก 6 (อยู่ทางซ้ายมือ) เดินตาม Skywalk ทางเชื่อมเข้าตึก ตรงไปจนถึงอาคาร True Digital Park ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ
เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าตึกไป เราจะอยู่ที่ชั้นสองของตึกทรู ซึ่งเป็นชั้นที่จัดงาน
เดินทางด้วยรถยนต์
True Digital Park ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ระหว่างซอยสุขุมวิท 101 และ 101/1 มีพื้นที่จอดรถรองรับภายในอาคาร
ผู้สื่อข่าวหรรษา