มีโอกาสร่วมทริปไปชมโครงการอสังหาริมทรัพย์ ของบมจ.ศุภาลัย ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งทางศุภาลัยไปร่วมทุนกับผู้ประกอบการอสังหาฯ ในออสเตรเลียมานานถึง 10 ปีแล้ว

ต้องขอขอบคุณผู้บริหาร ทั้งคุณประศาสน์ ตั้งมติธรรม กรรมการ บริษัท ศุภาลัย ออสเตรเลีย โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทย่อยของบมจ.ศุภาลัย) คุณอธิป พีชานนท์ กรรมการ บริษัท ศุภาลัย ออสเตรเลีย โฮลดิ้ง จำกัด และทีมงานศุภาลัย ซึ่งนอกจากพาไปดูความคืบหน้าการลงทุนของบริษัทแล้ว ยังเป็นหัวหน้าทริปพาคณะนักข่าวไปเปิดหูเปิดตาเที่ยวชมเมืองเมลเบิร์นอีกด้วย

ก่อนอื่นขอแนะนำ เมลเบิร์น กันพอเป็นกระสาย เมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และที่สำคัญติดท็อปเท็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก จากการการันตีของอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต เมื่อปี 2565 เป็นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย ไม่วุ่นวาย มีทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิม และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย

บรรยากาศในเมืองเมลเบิร์น

สำหรับสภาพอากาศช่วงที่ไปคือ ต้นเดือนก.ย. อากาศยังค่อนข้างหนาวเย็นอุณหภูมิประมาณ 9-18 องศาเซลเซียส และเผอิญเป็นช่วงที่มีลม ยิ่งทำให้เพิ่มความหนาวเย็นขึ้นไปอีก ใครชอบรับลมหนาวแนะนำให้ไปช่วงนี้ หรือถ้าใครกลัวว่าจะหนาวมากเกินไป ให้เลื่อนไปเดือนต.ค. อุณหภูมิที่เย็นกำลังสบายประมาณ 20 องศาเซลเซียส

ทริปนี้พาไปชม บ้านไม้หลากสี (Brighton Bathing Boxes) เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ สีสันสดใสสะดุดตา กว่า 80 หลัง ตั้งเรียงรายเป็นแนวยาวไปตลอดชายหาดไบรตัน ริมอ่าวพอร์ตฟิลลิป เป็นจุดเช็กอินที่นิยมอีกจุดหนึ่ง

บ้านไม้หลากสี

เดิมทีบ้านไม้หลากสี เป็นห้องอาบน้ำเก่าแก่จากยุควิกตอเรียน ที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว กลายเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวมาแชะรูปเป็นที่ระลึก หรือจะส่งไปอวดพี่น้อง เพื่อนฝูงก็ย่อมได้

อีกจุดหนึ่งเป็นสถานที่แนะนำสำหรับเหล่านักท่องเที่ยว คือ เซนต์คิลดา (st. kilda) เป็นชายหาดที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเมลเบิร์นมากนัก ไปทางใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นหาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร โดยเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมลเบิร์น จึงเป็นสถานที่ที่นิยมของคนที่นั่น อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองและการเดินทางไปก็สะดวก

ชายหาดเซนต์คิลดา

สวนสนุกอายุกว่าร้อยปี

นอกจากจะมีชายหาด ยังมีแหล่งอาหารการกิน แหล่งช็อปปิ้ง ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น รวมถึงยังมีสวนสนุกเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี อย่าง Luna Park ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ.2455 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ส่วนใครที่มีลูกน้อย หรือชอบดูสัตว์พื้นถิ่นประจำประเทศ อย่าง โคอะลา วอมแบต หรือจิงโจ้ ต้องไม่พลาดแวะไปเที่ยวชมสวนสัตว์เมลเบิร์น (Melbourne Zoo) เป็นสวนสัตว์ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1862 และเป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มากกว่า 320 สายพันธุ์จากออสเตรเลียและทั่วโลก

สวนสัตว์เมลเบิร์น

จิงโจ้ในสวนสัตว์เมลเบิร์น

น้องยีราฟในสวนสัตว์เมลเบิร์น

ที่สำคัญสวนสัตว์เมลเบิร์นมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการอนุรักษ์และมีบทบาทสำคัญในโครงการเพาะพันธุ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ นั่งเรือชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำยาร์รา ล่องเรือผ่านสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญๆ อาทิ จัตุรัสเฟเดอเรชั่น ทำเนียบรัฐบาล พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเมลเบิร์น เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ศูนย์นิทรรศการเมลเบิร์น พอลลี่วูดไซด์ สะพาน Bolte และ Westgate รวมถึงคราวน์กาสิโนของเมลเบิร์น (กาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย)

แม่น้ำยาร์รา

และอีกกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวคือ การพายเรือคายักไปตามแม่น้ำยาร์รา

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ต้องห้ามพลาดคือพัฟฟิ่ง บิลลี่ เรลเวย์ (Puffing Billy Railway) หรือ “รถไฟห้อยขา” เป็นขบวนรถไฟจักรไอน้ำโบราณเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี สร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1900 ตัวขบวนรถไฟคลาสสิค หน้าต่างเปิดโล่งกว้าง เพื่อชมธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ป่าเขียวชอุ่มของเทือกเขา Dandenong

ขบวนรถไฟจักรไอน้ำโบราณ

นั่งรถไฟห้อยขา

รถไฟคดโค้งไปตามราง

ทำไมถึงเรียกรถไฟห้อยขา เนื่องจากคนที่นั่งรถไฟสามารถห้อยขาออกมาจากหน้าต่างขณะที่รถไฟวิ่งไปตามรางได้ โดยจุดที่ตื่นเต้นสุดจะอยู่ตรงจังหวะที่ขบวนรถไฟค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านสะพาน Monbulk Creek Trestle คดโค้งไปตามราง สร้างความหวาดเสียวเล็กๆ ให้กับคนนั่ง

พอดีมีโอกาสได้ขึ้นไปยังจุดชมวิวบนเทือกเขา Dandenong ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นเมลเบิร์นทั้งเมือง ข้างบนนั้นมีคาเฟ่ให้จิบชา กาแฟ คลายหนาวด้วย

จุดชมวิวบนเทือกเขา Dandenong

นอกจากสถานที่เที่ยวแล้ว ออสเตรเลียยังขึ้นชื่อว่ามีสินค้าที่สาวกสายช็อปปิ้งตาลุกวาวทีเดียว ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามิน บิวตี้ ครีมทาหน้าทาผิว ครีมรกแกะ น้ำหอม ที่คนไทยนิยมซื้อกลับมาใช้ หรือนำมาเป็นของฝาก หาซื้อกันได้ที่ร้านขายยาเคมิสต์ แวร์เฮาส์ (Chemist Warehouse) มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ และที่สำคัญราคาถูกมาก

ส่วนของฝากประเภทของกิน แน่นอนว่าทิมแทม ขนมบิสกิตเคลือบช็อกโกแลต คือของฝากอันดับต้นๆ ที่หาซื้อได้ง่ายมาก แถมทิมแทมที่ออสเตรเลียยังอร่อยกว่าประเทศไหนๆ เพราะช็อกโกแลตจะเข้มข้นกว่าและไม่หวานมากเกินไป

สายช็อปบิวตี้ต้องมาที่นี่

นอกจากนี้ ยังมีแมคคาเดเมีย ถั่วราคาแพงในไทยที่สามารถซื้อได้จากออสเตรเลียในราคาถูก เพราะแมคคาเดเมียเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลีย

ที่ต้องไม่พลาดซื้อติดไม้ติดมือกลับมาอีกอย่างคือ น้ำผึ้งมานูก้าที่สามารถนำมาทานหรือจะนำมาบำรุงผิวก็ได้ น้ำผึ้งมานูก้าเป็นน้ำผึ้งที่ได้มาจากการที่ผึ้งผสมเกสรกับต้นมานูก้า

ร้านนี้มีของฝากแสนอร่อย

ทั้งหมดที่ว่ามาหาซื้อได้ที่ โคลส์ (Coles), วูลเวิร์ธ (Woolworths) ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต จะอารมณ์คล้ายๆ กับบิ๊กซี โลตัส ท็อปส์ของไทย โดยทั้ง 2 แห่งนี้จะจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้ากันตลอดทั้งปี

เจอของถูกเข้าไปทำเอาลูกทัวร์ช็อปกันจนหยดสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน

จบทริปด้วยความอิ่มเอมใจเก็บทั้งความสวยงาม ความสนุก รวมถึงแบกของที่ช็อปปิ้งกระเป๋าใหญ่กลับบ้าน

หมายมั่นปั้นมือว่าถ้ามีโอกาสจะต้องไปซ้ำ เพราะยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้ไป

ณฤศร มัณยาภา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน