นักวิชาการ ชี้สลากแบบใหม่ ไม่ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา หนำซ้ำแข่งหวยใต้ดินไม่ได้ ลูกค้าเอ็น 3 คือคอหวยใต้ดิน คาดเงินสะพัดปีละ 4 หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.66 นายรัตพงษ์ สอนสุภาพ ผู้อำนวยการวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า การที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ ทั้งสลากเลข 3 หลัก หรือเอ็น3 และลอตเตอรี่6 หรือแอล6 นั้น คิดว่าไม่น่าจะช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา หรือการพนันหวยใต้ดินให้หมดไปได้ โดยเฉพาะหวยใต้ดินที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน ซึ่งมีความคุ้นเคยกับผู้ซื้อมากกว่า อีกทั้งยังมีโปรโมชั่น หาซื้อได้ง่าย มีเครดิต มีส่วนลดให้กับผู้ซื้อได้ด้วย

นายรัตพงษ์ กล่าวต่อว่า ประเมินว่าหากรัฐบาลออกสลากเอ็น 3 น่าจะมียอดขายประมาณปีละ 4 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับการทำหวยบนดินสมัยรัฐบาลยุคก่อน ส่วนผู้ซื้อก็น่าจะมีทั้งกลุ่มผู้ซื้อหน้าเก่า ที่ซื้อทั้งหวยใต้ดิน และเอ็น3 ส่วนผู้ซื้อหน้าใหม่ก็อาจมีบ้างแต่ไม่มาก เพราะการขายเลขสลากเอ็น 3 ไม่น่าจะถูกจริตกับคนรุ่นใหม่ โดยผลศึกษาพบว่าคนรุ่นใหม่นิยมเล่นพนันออนไลน์ ผ่านสมาร์ทโฟนมากกว่า

“สลากเอ็น 3 ดูเหมือนจะมาแข่งหวยใต้ดิน แต่ก็ต้องดูว่าจะตั้งราคาเท่าไหร่ ถ้าตั้งไว้ 50 บาท ก็ไม่ยืดหยุ่น แถมหวยใต้ดินยังมีระบบเครดิต ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง มีเจ้ามือเป็นคนในชุมชนหมู่บ้าน มีความสะดวกกว่าในการเข้าถึงผู้ซื้อมากกว่า

แต่จุดแข็งของเอ็น 3 คือการขายผ่านระบบดิจิทัลอย่างเดียว จะลดความเสี่ยงของผู้ซื้อเพราะเป็นของรัฐ ถูกแล้วได้เงินแน่ มีความปลอดภัยทางข้อมูล ที่สำคัญระบบดิจิทัล ยังช่วยคัดกรองไม่ให้เข้าถึงของเด็กและเยาวชนได้ แต่สุดท้ายก็เชื่อว่าหวยใต้ดินจะไม่หายไป และจะขายคู่ขนานไปกับเอ็น 3 อยู่ดี” นายรัตพงษ์ กล่าว

นายรัตพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนทำสลากแอล 6 จะช่วยให้สำนักงานสลากฯ เพิ่มลอตเตอรี่เข้ามาขายผ่านสลากดิจิทัลได้ง่ายขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าการเพิ่มจำนวนอย่างเดียวจะช่วยแก้ปัญหาการเกินราคาได้หรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาก็มีการเพิ่มจำนวนแล้วหลายครั้ง

แต่สลากฯก็ยังไม่พอ และขายเกินราคาอยู่ เนื่องจากยังติดปัญหาเชิงโครงสร้าง คือตัวแทนจำหน่ายไม่ได้ขายเอง นำไปขายช่วง โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ได้โควตาถาวรงวด 30 ล้านใบ ซึ่งมองว่าควรลดตัวแทนจำหน่ายแบบเก่าลง และหันไปเพิ่มส่วนของการซื้อจอง เพราะเป็นความต้องการของตลาดที่แท้จริง








Advertisement

“เวลาเสนอเรื่องไปแบบนี้ อาจจะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ค่อยถูกใจนัก เพราะมันมีเรื่องผลประโยชน์แบบนี้มายาวนาน ทั้งที่จริงหากหน่วยงานเหล่านั้นอยากได้เงิน ก็ให้ขอเป็นโครงการเป็นตัวเงินไปตรงๆ ดีกว่า เหมือนประเทศอื่นเขาทำ ส่วนจะเพิ่มจำนวนสลากเข้ามาในระบบเท่าไร เท่าที่ดูตัวเลขปี 2564-2565 มีปริมาณสลากที่น่าจะขาดอยู่ 50 ล้านใบ

ซึ่งปัจจุบันมีสลากดั้งเดิมงวด 100 ล้านใบ ถ้าปี 2567 จะเพิ่มสลากอีก 30 ล้าน ตลาดก็ยังคงรับได้ โดยหลักการเมื่อสลากจำนวนเพิ่ม ราคาก็จะลดลง เพราะเมื่อของมีปริมาณที่มากพอ ซึ่งตอนนี้ของน้อยกว่าความต้องการ 30-50 ล้านใบ” นายรัตพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลการศึกษาของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันยังพบว่า แต่ละปีมีคนไทยเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันทุกรูปแบบ 30 ล้านคน และทุกๆ ปี มีผู้เล่นพนันหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6-7 แสนคน โดยเป็นการเล่นพนันที่หลากหลาย ไม่ได้เจาะลงที่สลากกินแบ่งฯ อย่างเดียว มีพนันฟุตบอล พนันออนไลน์ ดังนั้นการที่สำนักงานสลากฯ จะออกสลากทั้ง 2 ประเภทออกมาทั้ง แอล6 และเอ็น3 ไม่น่าจะใช้เหตุผลหลักทำให้คนหันมาเล่นพนันเพิ่มขึ้น

“สภาพที่เป็นจริง ในทุกวันนี้คนเล่นพนันไม่ได้ลดลงอย่างน้อยเกือบ 30 ล้านคนต่อปี เงินสะพัด 3-4 แสนล้าน เราต้องยอมรับเรื่องนี้และจะแก้ปัญหาตามข้อมูลที่อยู่จริง หรือจะแก้ตามอุดมคติก็ว่ากันไป ดังนั้น ไม่ว่าสำนักงานสลากฯ จะออกผลิตภัณฑ์หรือไม่ก็ตาม คนก็เล่นเพิ่มขึ้นทุกปี เราคงไม่สามารถบอกได้ว่า การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของสลาก จะเป็นการทำให้คนเล่นพนันมากขึ้น” นายรัตพงษ์ กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน