เมื่อวันที่ 20 พ.ค. เว็บไซต์ ไอครีเอทีฟเอเอ็ม รายงานว่า แม่คนหนึ่งจากประเทศอินเดีย คลอดลูกก่อนกำหนด 12 สัปดาห์ และลูกสาวของเธอเป็นเด็กขนาดเล็กที่สุดที่มีชีวิตรอดมาได้ ตอนแรกเด็กมีน้ำหนักเพียง 0.4 กิโลกรัมและมีขนาดเล็ก ซึ่งเด็กแรกเกิดทั่วไปมีน้ำหนักประมาณ 2.7 ถึง 4.1 กิโลกรัม

ตอนนั้นทีมแพทย์ลงความเห็นว่า เด็กมีโอกาสรอดชีวิตเพียง 0.5 % แต่เธออยู่ในโรงพยาบาลนานกว่า 6 เดือน แล้วรอดกลับไปอยู่ที่บ้านเหมือนเด็กคนอื่นๆได้ ในช่วงแรก แม่มีอาการความดันสูงผิดปกติ เมื่อแพทย์ทำการตรวจสอบก็พบว่า เลือดไม่ไหลไปเลี้ยงตัวอ่อน ทำให้ต้องผ่าตัดนำลูกออกมาทันที จากนั้น
แพทย์ต้องนำเด็กใส่ตู้อบทันที เนื่องจากอวัยวะสำคัญอย่างสมอง ไต ปอด และกลัวใจยังพัฒนาไม่เต็มที่ และผิวหนังของเธอค่อนข้างเปราะบาง อีกทั้งเธอมีร่างกายเล็กแค่ 8.6 นิ้ว ทำให้เธอเหมือนตุ๊กตาตัวเล็กๆมากกว่าเด็กปกติ

ทางแพทย์ให้ความเห็นว่า “เธอมีปัญหาในการหายใจ ทำให้เราต้องนำเธอใส่ตู้อบทันที แล้วเราต้องให้สารอาหารจำเป็นหลายชนิดอย่าง กรดอะมิโน แร่ธาตุ คาร์โบไฮเดรต เข้าสู่กระแสเลือด” ด้วยกระบวนการรักษาหลายขั้นตอนทำให้ค่าดูแลเด็กทารกคนดังกล่าวสูงถึง 15,476 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500,000 บาท โดยทางโรงพยาบาลช่วยออกค่าใช้จ่าย เนื่องจากพ่อแม่ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาส่วนนี้ได้

ตอนนี้เด็กมีสภาพแข็งแรงดีแล้วพร้อมเติบโตในการเลี้ยงดูของแม่ ทั้งนี้ทีมแพทย์ให้สัมภาษณ์ส่งท้ายว่า “พวกเราตัดสินใจช่วยเหลือเด็กและสบทบค่าใช้จ่าย เพราะว่าพวกเราอยากแสดงเจตนาว่าเด็กทุกคนควรได้รับการปกป้อง ในรัฐราชาสถานของเรา เทรนด์การฆ่าเด็กทารกกำลังระบาด ทุกคนควรออกมาแสดงจุดยืนให้สิ่งเลวร้ายนี้ยุติลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน