เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ นับตั้งแต่ นายเสนาะ เทียนทอง ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตัดสินใจเนรมิตชื่อจาก “ยาม้า” มาเป็น “ยาบ้า” ในปี พ.ศ.2539 จนถึงบัดนี้ข้อสงสัยหนึ่งในเรื่องของ ยาบ้า ก็ยังถูกตั้งข้อสงสัยอยู่

ในโลกโซเชียล หรือ บอร์ดต่างๆ มีหลายคนตั้งคำถาม “เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยามจับกุมผู้ค้ายาบ้าได้ จึงต้องนำ ยาบ้า มาเรียงเป็นตัวอักษรว่าด้วย” คำถามนี้ยังไม่มีใครแจงถึงที่มาได้อย่างชัดเจนเสียที

เทียบเคียงกันกับยาชนิดอื่นที่เป็นสิ่งเสพติด หรือสินค้าผิดกฎหมายอย่าง “ไวอาก้า” ก็ไม่ยักเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไวอาก้ามาเรียงเป็นตัวอักษรเหมือนยาบ้าสักครั้ง

อาจแย้งว่ายาบ้าส่วนใหญ่มีเม็ดสีส้ม หากไม่เรียงเป็นยาบ้า เยาวชนจะเข้าใจผิดว่าเป็น “วิตามินซี” แก้หวัด ก็แลดูฟังไม่ขึ้น

เรียงร้อเป็นถ้อยคำที่สวยงาม

แล้วเหตุผลอะไรที่ตำรวจส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศ ต้องหยิบยาบ้าที่เป็นของกลางมาวางเรียงรายต่อหน้ากล้องตอนแถลงข่าวด้วย เพราะจนแพทเทิร์นนี้แทบจะเป็น “ลายเซ็น” ของเจ้าหน้าที่ไปเสียแล้ว

ข่าวสดออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผบช.น.ดูแลงานยาเสพติด เล่าให้ฟังว่า “สมัยก่อนช่วงระหว่างที่มีการแถลงข่าว จะมีการนำยาบ้า ที่สมัยก่อนยังนิยมเรียกว่ายาม้า เรียงของกลางปั้นเป็นรูปม้า หรือเอายาเสพติด เป็นเม็ดมาเรียงตัวอักษรคำว่า ยาม้า หรือยาบ้า”

“ถามว่าจะทำไปทำไมก็ไม่ทราบเหตุผล เพราะความเป็นจริงก็ไม่ควรไปแตะต้องของกลาง แต่ปัจจุบันนี้เราวางของกลางเป็นห่อๆ อาทิเช่น ให้รู้ว่าถุงนี้คือยาบ้า ถุงนี้คือยาไอซ์ ถุงนี้คือกัญชา ถุงนี้คือเฮโรอีน เป็นต้น”

“ถือเป็นลักษณะเดียวกันกับการวางของกลางพวก สร้อยคอ อาวุธปืน ก็ต้องเขียนเพื่อให้รู้ว่าชนิดของกลางนั้นคืออะไร เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลเสียแต่อย่างใด เพราะตัวอักษรที่เขียนติดเอาไว้นั้นเพื่อต้องบอกชนิดของกลางที่จับกุมมาได้พร้อมผู้ต้องหา”

แม้คำตอบอาจดูไม่ชัดเจน แต่ประเพณีของโรงพัก หรือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา ด้วยการนำ ยาบ้า ของกลาง มาเรียงร้อยเป็นชื่ออาจยังมีให้เห็นบ้าง แต่ในยุคปัจจุบันนั้นเริ่มเหลือน้อยลงแล้ว

เป็นงานศิลปะบนโรงพัก ที่ค่อยๆเลือนหายไปตามกาลเวลา

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน