เปิดประวัติ “หลวงปู่ทวน” อายุ 110 ปี พระเกจิดัง 6 แผ่นดิน หลังมรณภาพด้วยอุบัติเหตุ

หลวงปู่ทวน – หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน บริเวณหน้าเมืองใหม่นายายอาม ต.นายายอาม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี เป็นเหตุให้ หลวงปู่ทวน อายุ 110 ปี พระเกจิชื่อดังของวัดโป่งยาง จ.จันทบุรี มรณภาพ

โดย “หลวงปู่ทวน ปุสสวโร” พระเกจิชื่อดังแห่งวัด จันทคุณาราม (วัดโป่งยาง) อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พระเถระผู้มีเมตตาธรรมสูง มากด้วยเมตตา และมีวิทยาคมเข้มขลัง วัตถุมงคลของท่านหลายรุ่นได้รับความนิยมจากนักสะสม

ปัจจุบัน สิริอายุ 110 ปี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ค. 2451 อยู่ที่บ้าน ชอนใน ต.ชอนสารเดช อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

ชีวิตวัยเยาว์มีโอกาสศึกษา เล่าเรียนอักขระที่วัดชอนสารเดช อาศัยพระเป็นผู้อบรมสั่งสอน โดยอยู่ในความดูแลของหลวงพ่อทรัพย์ วัดชอนสารเดช อาศัยอุปัฏฐากรับใช้หลวงพ่อทรัพย์ และหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

ซึ่งหลวงพ่อเดิมเดินทางมาพักและสนทนาธรรมกับหลวงพ่อทรัพย์ ที่วัดชอนสารเดช เป็นประจำ สุดท้าย หลวงพ่อทรัพย์ ฝากให้เดินทางไปวัดหนองโพ เพื่ออุปัฏฐากรับใช้ต่อไป

พ.ศ.2466 หลวงพ่อเดิมเห็นว่า เป็นผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรม จึงให้บรรพชาเป็นสามเณร ขณะมีอายุ 15 ปี พร้อมถ่ายทอดแนวทางปฏิบัติธรรมและวิทยาคมให้สามเณรทวนมาโดยตลอด

อายุครบ 20 ปี พ.ศ.2471 เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสิริจันทรมิตร (วัดเขาพระงาม) ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นวัดสังกัดธรรมยุต มีหลวงปู่อ่ำ หรือ พระเทพวรคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาพระงาม เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังอุปสมบทอยู่จำพรรษาที่วัดเขาพระงาม ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก ส่วนทางด้านปฏิบัติและวิทยาคมที่ได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อเดิมก็ได้ทบทวนตลอด

ว่างจากภารกิจ ท่านมักธุดงค์ขึ้นเทือกเขาพระงาม และท่านได้รับทราบจากหลวงปู่อ่ำว่า พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์ด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานแห่งภาคอีสาน เคยมาพักและปฏิบัติธรรมในถ้ำเทือกเขาพระงาม ทำให้หลวงปู่ทวนต้องการเข้าพบเพื่อศึกษาแนวทางปฏิบัติกับท่าน

พ.ศ.2473 กราบลาหลวงปู่อ่ำ ออกธุดงควัตรจากลพบุรีสู่ภาคอีสาน และทราบว่าพระอาจารย์มั่นกำลังฝึกอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานให้กับพระภิกษุ-สามเณร ที่วัดแห่งหนึ่ง จ.สกลนคร จึงรีบเดินทางไปพบท่าน และกราบฝากตัวเป็นศิษย์รับการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

จากนั้นหลวงปู่ทวนออกธุดงค์ในถิ่นอีสานเหนือ-ใต้ เป็นเวลาพอสมควร จึงเดินทางกลับวัดชอนสารเดช และลาสิกขา เพื่อช่วยบิดา-มารดาประกอบอาชีพเมื่อปีพ.ศ.2479

ต่อมาเกิดเบื่อหน่ายทางโลก คิดจะเข้าสู่ทางธรรม จึงเข้าอุปสมบทครั้งที่ 2 ที่วัดวังน้ำเย็น อ.สระแก้ว จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2533 ขณะมีอายุ 83 ปี โดยมีพระธรรมญาณประยุกต์ วัดวังน้ำเย็น เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาประพันธ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สมส่วน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายา ปุสส วโร สังกัดมหานิกาย

หลังอุปสมบทครั้งนี้อยู่จำพรรษาที่วัดวังน้ำเย็นเพียงไม่กี่วันได้กราบลาพระอุปัชฌาย์ ออกธุดงค์ไปตามแนวฝั่งโขง

พ.ศ.2537 ธุดงค์ถึงเมืองโขง แคว้นนครจำปาสัก เห็นว่าเป็นสถานที่ร่มรื่น จึงหยุดพักจำพรรษาชั่วคราว 1 พรรษา หลังออกพรรษาแล้วเดินทางข้ามแม่น้ำโขงสู่ฝั่งไทย นับเป็นเวลา 11 ปี ที่ออกธุดงควัตร ท่านปฏิบัติกิจวิปัสสนากัมมัฏฐานตลอดเส้นทาง

พ.ศ.2544 เดินทางมาจำพรรษาที่วัดจันทคุณาราม (วัดโป่งยาง) อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ท่านได้ให้ความช่วยเหลือเจ้าอาวาสวัดโป่งยาง พัฒนาวัด ทำนุบำรุงวัดมาโดยตลอด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน