หนุ่มแฉค่ายธรรมะ บังคับเข้า จิตใจย่ำแย่ ทำน้องชายต้องพบจิตแพทย์ กินยาตลอดชีวิต!
ค่ายธรรมะ – ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jettapon Kraimark ได้โพสต์ภาพจากกระทู้พันทิป แฉ!!! ค่ายธรรมะที่….มาก แทบไม่มีอะไรธรรมะ โรงเรียนบังคับเข้า ทำเพื่อนเราต้องพบจิตแพทย์ ปัจจุบันยังรักษาไม่หาย โดยเนื้อหาภายในกระทู้ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา 4 ปีแล้ว คือตนเคยต้องเข้าค่ายธรรมะ เนื่องจากทางโรงเรียนบังคับให้เด็ก ม.4 ทุกคนต้องเข้าค่าย ไม่เช่นนั้นจะไม่ผ่าน
กิจกรรมภายในค่าย มีการเปิดคลิปที่ทำให้นักเรียนและครูสะเทือนใจ เช่น เปิดคลิปเชือดสัตว์ที่มีเลือดเยอะให้ดู ทำให้นักเรียนกินข้าวไม่ลง พอข้าวเหลือก็เทรวมใส่หม้อ ให้ครูมากินเป็นการรับผิดชอบ มีการบังคับให้ยืนสาบานตนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนถึงตี 5 จนนักเรียนเป็นลมกันหลายคน ทั้งยังมีกิจกรรมที่ทำให้นักเรียนเจ็บป่วยเพราะพักผ่อนไม่พอ รวมถึงทำให้รู้สึกกดดันจนร้องไห้ตลอด 3 วันในค่าย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเพื่อนของเจ้าของกระทู้ที่ร้องไห้หนัก จนหลังจากจบค่ายต้องพบจิตแพทย์ และหยุดเรียนไป 1 ปี
ผู้ใช้เฟซบุ๊กระบุว่า ตนเป็นพี่ชายของนักเรียนที่ต้องได้รับการรักษาจากจิตแพทย์จากเหตุการณ์นั้นถึงตอนนี้ก็ประมาณ 4 ปีแล้ว โดยเพิ่งมารู้รายละเอียดกิจกรรมจริงๆ ก็จากกระทู้นี้ ก่อนหน้านี้คือรู้คร่าวๆ ว่าเป็นค่ายธรรมะที่มีการกดดันให้เด็กสำนึกผิด ใครที่จิตใจไม่เข้มแข็งอาจจะจิตตกได้
“ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้โทษใครเลยคิดว่าน้องเรานี่แหละที่จิตใจไม่เข้มแข็งพอเพราะเด็กคนอื่นก็ไม่เห็นเป็นไรกัน”
อาการของน้องตนเอาแต่พูดขอโทษแม่ ขอโทษพ่อ และตน มีอาการหวาดระแวงใจสั่นตลอดเวลา ไม่สามารถนอนหลับกลางคืนได้ พอตกกลางคืนน้องจะก้มลงกราบทุกคนในบ้านทุกคืนแล้วบอกว่า “น้องขอโทษๆๆ” ที่บ้านต่างพากันสงสัยว่าน้องไปทำผิดอะไรมา ปรากฏคือ น้องสำนึกผิดที่ตัวเองไม่ใช่ผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ตนและที่บ้านก็พอรู้กันอยู่แล้ว และก็ได้มีการพูดคุยว่าทุกคนยอมรับได้ในตัวน้อง
แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะน้องตนยังคงก้มกราบขอโทษทุกคนทุกคืน ร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนอาการหนักขึ้น ไม่กล้าเจอหน้าใคร เหมือนคิดว่าตัวเองผิดมากที่เป็นเพศที่สาม มีไปมุดตัวอยู่ใต้โต๊ะแล้วแอบร้องไห้คนเดียวจนทุกคนในบ้านเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจพาน้องไปพบจิตแพทย์ และรักษาอยู่ประมาณ 2-3 เดือน อาการก็ดีขึ้นแต่ยังไปเรียนไม่ได้ ต้องรักษาสภาพจิตใจที่บ้านต่อ และต้องทานยาต่อเนื่องตลอดทั้งชีวิตเพราะอาการสามารถกลับมาเกิดได้เสมอ
“สุดท้ายอยากฝากถึงค่ายธรรมะนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเรียกว่าค่ายธรรมะได้รึเปล่า ควรหยุดทำกิจกรรมนี้เถอะ มันไม่มีประโยชน์เลย เพราะกิจกรรมแต่ละอย่างเหมือนเป็นการบีบบังคับและกดดันให้เด็กยอมสารภาพความผิดเหมือนกับเด็กเป็นนักโทษและเหมือนจะมีการขู่ทำร้ายร่างกาย เป็นใครก็กลัว ยิ่งเป็นเด็กมัธยมที่ไม่เคยโดนสภาวะกดดันแบบนี่ บอกเลยว่าจิตตกได้เลยครับ”
“ท้ายสุดขอฝากถึงโรงเรียนว่า น่าจะมีการตรวจสอบกิจกรรมของค่ายนี้ให้ดีก่อนจัดขึ้นมา”
