สาวโพสต์เตือน ปวดท้องเลือดออกช่องคลอด หมอตรวจผิด-พูดจาไม่ดีใส่ ทำให้แท้งลูก

สาวโพสต์เตือน – จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความพร้อมระบุว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. มีอาการปวดท้องและมีมูกปนเลือดออกมา ซึ่งผู้โพสต์นั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์ จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาล โดยแพทย์เวรระบุว่าเธอกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จึงให้ยาพาราและยาฆ่าเชื้อมากิน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ยังปวดท้องอยู่ วันที่ 5 ม.ค. จึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และพบกับแพทย์เวรคนเดิม โดยเธอขออัลตราซาวด์เพื่อดูว่าลูกในท้องไม่ได้รับอันตราย

แต่สิ่งที่เธอได้รับคือแพทย์เวรที่รักษาเธอ พูดจาไม่ดีใส่จนเสียความรู้สึก และไม่ได้ตรวจอาการของเธออย่างละเอียด กระทั่งวันที่ 7 ม.ค. อาการปวดท้องของเธอยังไม่ดีขึ้นจึงตัดสินใจไปรักษาที่คลินิกแทน จากนั้นก็ต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อมีบางอย่างหลุดออกมาจากช่องคลอด และทำให้เธอต้องเสียลูกของเธอไป

คืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวประสานไปยังโรงพยาบาลนครนายก เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับการตอบรับและนัดให้คู่กรณีมาพบกับฝ่ายบริหาร ที่ รพ.นครนายก ในเวลาประมาณ 13.00 น. โดยคณะผู้บริหารนำโดย นพ.สมพงษ์ เชี่ยวชาญกลจักร รองผู้อำนวยการ รพ.นครนายก และพญ.กัลยาณี กังสนารักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานสูตินารีแพทย์ รพ.นครนายก และคณะ ได้มาพบและพูดคุยกับ น.ส.สถิตย์ภรณ์ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับญาติ

น.ส.สถิตย์ภรณ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดจะทำให้หมอคนดังกล่าวนี้ออกจากงาน แต่ต้องการให้ผู้บริหารได้ว่ากล่าวตักเตือนทางหมอคนดังกล่าว ให้ระมัดระวังคำพูดและกิริยาท่าทางกับคนไข้ให้มากกว่านี้ และอยากให้ทางโรงพยาบาลนครนายกปรับปรุงเรื่องการให้บริการคนไข้ฉุกเฉินให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

ด้าน พญ.กัลยาณี กล่าวว่า ได้สอบถามกับทางแพทย์หญิงคนดังกล่าวแล้ว ทางเจ้าตัวก็ยอมรับว่าได้พูดจาไม่ดีกับคนไข้จริง ซึ่งทางเราก็ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว เขาก็ยอมรับผิดและรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น กรณีนี้หากผู้ป่วยมาในเวลาราชการ ก็จะมีหมอเฉพาะทางคอยดูแล เบื้องต้นจะทำการอัลตราซาวด์เสียก่อน แต่อาจเป็นเพราะแพทย์คนดังกล่าว เป็นแพทย์ฝึกหัด อาจจะมีประสบการณ์น้อยไป

แอดไลน์ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

พญ.กัลยาณี กล่าวต่อว่า ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงพยาบาล ก็จะนำไปเป็นกรณีศึกษา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ในส่วนของการปรับปรุงการให้บริการด้านห้องฉุกเฉิน ปัจจุบันนี้ทางโรงพยาบาลมีการจัดตั้งคณะทำงานสำหรับดูแลเรื่องปัญหาเหล่านี้ โดยตั้งเป็นกลุ่ม “บริหารความเสี่ยง” คอยติดตามดูหากเกิดปัญหา ก็จะเข้าไปพูดคุยกับคนไข้หรือผู้เสียหายเพื่อจะได้รับรู้ข้อเท็จจริงและนำมาดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

“ที่ผ่านมายอมรับว่า ห้องฉุกเฉินเป็นส่วนที่มีปัญหาเรื่องการบริการมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะความไม่เข้าใจและการสื่อสารที่ไม่ดีทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น ในระยะยาวจะต้องมีการจัดระบบแจ้งให้คนไข้ทราบว่า ในเวลานั้นแพทย์กำลังทำเคสคนไข้สำคัญอยู่หรือไม่ ซึ่งอาจจะใช้ในเรื่องสัญญาณไฟเป็นเครื่องหมายบอกเหตุต่อไป ขณะนี้ ทางรพ.ก็ได้ทำการใช้คลินิกนอกเวลา เป็นการแยกคนไข้ฉุกเฉินออกจากคนไข้ที่มีอาการไม่ร้ายแรง โดยคนไข้ที่มีอาการไม่ร้ายแรง จะแยกไปไว้ที่คลีนิก นอกเวลาเป็นหลัก” พญ.กัลยาณี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้พูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว คนไข้มีท่าทีพอใจในคำชี้แจงของผู้บริหาร และไม่ติดใจเอาความใดๆ ส่วนทางผู้บริหารก็รับปากจะนำเรื่องนี้ไปปรับปรุงในการให้บริการกับคนป่วยต่อไป สำหรับแพทย์หญิงคนดังกล่าว แพทย์พี่เลี้ยง ได้ดำเนินการว่ากล่าว ตักเตือนไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับผิดแต่โดยดี

(ดูโพสต์ต้นทาง ที่นี่)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน