พ่อแม่กลุ้ม ลูกแอบดูคลิปโป๊ ถามจิตแพทย์เด็ก ต้องคุยกับเขาอย่างไร ถึงจะเข้าใจ

เฟซบุ๊กเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา โดย ‘หมอมินบานเย็น’ หรือ คุณหมอ ‘เบญจพร ตันตสูติ’ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เขียนแนะนำผู้ปกครอง ที่มีปัญหา และกลุ้มใจ ที่ลูกแอบดูหนังโป๊ ความว่า

เป็นคำถามจากคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่ผ่านมามีพ่อแม่หลายท่านที่มีปัญหาแบบเดียวกันนี้มาถามหมอ ว่าลูกชาย ลูกสาว แอบดูคลิปโป๊ในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต จะทำยังไง

คงต้องบอกก่อนว่าให้ทำใจร่มๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นค่ะ เป็นความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติ อย่าเพิ่งไปโวยวายกับลูก เดี๋ยวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ยิ่งทำให้เราแนะนำเขาไม่ได้

เดี๋ยวนี้เด็กเกือบทุกคนเล่นอุปกรณ์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ รู้จักอินเทอร์เน็ตแถมใช้งานได้คล่องแคล่ว

อินเทอร์เน็ตก็มีประโยชน์ เด็กๆใช้หาข้อมูล ทำรายงาน ทำการบ้านกับเพื่อน ครูก็สั่งงานผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

เรื่องของการดูสื่อที่ไม่เหมาะสม มักเกิดตอนที่เด็กใช้งานอินเทอร์เน็ตคนเดียว

ซึ่งตามหลักถ้าอายุน้อยกว่า 6 ขวบ ผู้ใหญ่ควรต้องนั่งดูอยู่ด้วย ไม่ควรทิ้งให้เด็กนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตตามลำพัง

ถ้าอายุ 6 ถึง 12 ปีเด็กควรเล่นอินเทอร์เน็ตภายในการดูแล (คืออยู่ในสายตาพ่อแม่ควรรู้ว่าเขาเล่นอะไรอยู่)

ถ้าอายุ 12ปีขึ้นไป เขาสามารถเล่นด้วยความรับผิดชอบของตัวเองได้ (แต่พ่อแม่ก็ควรรู้ว่าเด็กกำลังทำอะไรในโลกออนไลน์ สามารถคุยกับเขาได้ ซึ่งตรงนี้ต้องใช้สัมพันธภาพที่ดีที่สร้างมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กเล็ก)

แต่ชีวิตจริงพ่อแม่ก็คงเฝ้าดูเด็กไม่ได้ตลอด บางทีเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ดีๆ ก็มีหน้าเว็บอีกอันเด้งขึ้นมาเป็นเว็บโป๊ บางทีก็เป็นเว็บการพนัน เว็บเกมออนไลน์ ตรงนี้ประสบการณ์ส่วนตัวของหมอเองก็เจอบ่อยๆ นับประสาอะไรกับเด็กๆ ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็นอะไรที่แปลกใหม่ด้วย

ถ้าเด็กอยู่คนเดียว โอกาสที่จะกดลิงก์อะไรพวกนี้ก็ง่ายขึ้น แต่ถ้าผู้ใหญ่อนุญาตให้เด็กใช้อินเทอร์เน็ตได้เฉพาะจากคอมพิวเตอร์ และเอาคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเทอร์เน็ตได้มาตั้งไว้ในห้องที่คนนั่งกันหลายๆคน โอกาสที่เด็กจะเข้าถึงสื่อที่ไม่เหมาะสมก็คงเป็นไปได้ยาก หรือควรจะมีความรู้เท่าทันติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่คัดกรองเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมออกไปได้ในเครื่องที่ลูกเล่น

เอาเข้าจริงๆแล้ว ของแบบนี้เด็กก็มักได้รู้จักเวลาอยู่กับเพื่อนๆ เช่น ที่โรงเรียน ไปกับเพื่อน แล้วเพื่อนอาจกดให้ดู

ในกรณีที่เมื่อดูไปแล้วแบบนี้ ก็คงต้องคุยกันอย่างเข้าใจ ไม่ใช้อารมณ์ แล้วตรงนี้พ่อแม่ควรเตรียมตัวอย่างไร

ถ้ารู้ว่าลูกแอบดูสื่อลามก ก่อนอื่นหมออยากให้ทำใจเย็นๆ ไม่อยากให้ตกใจหรือโกรธจนเกินไป เช่น ดุว่าและทำโทษจากนั้นก็ปล่อยผ่านไป แบบนั้นไม่มีประโยชน์

ผู้ใหญ่ควรหาเวลาสบายๆ เพื่อพูดคุยกับลูกเรื่องนี้ บอกไปตรงๆว่าเรารู้ว่าลูกดู ด้วยท่าทีที่สงบ เข้าใจ ถือโอกาสนี้ให้ความรู้เรื่องเพศไปเลย เรียกว่าพลิกสถานการณ์ที่เราเป็นห่วงให้กลายเป็นโอกาส (แต่จะให้ความรู้แบบไหนก็คงขึ้นอยู่กับวัยของลูก ถ้าเป็นเด็กเล็ก ก็ไม่ควรสอนที่ซับซ้อนเกินไป แต่ส่วนใหญ่เคสที่ดู มักเป็นเด็กที่กำลังเข้าวัยรุ่นขึ้นไป คือเริ่มที่จะมีสมาร์ทโฟนของตัวเอง)

อันนี้เป็นคำแนะนำสำหรับลูกที่กำลังเข้าวัยรุ่น ลูกเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว มีความสนใจเรื่องเพศ และไปดูคลิปหรือสื่อที่ไม่เหมาะสม

บอกเขาตรงๆว่า แม่รู้ว่าหนูดู โดยที่ไม่ต้องใช้อารมณ์ แล้วถามว่าดูคลิปแล้วมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง บอกลูกว่าความรู้สึกแบบนี้เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ แต่ต้องจัดการและควบคุมการแสดงออกให้เหมาะสม

บอกลูกว่าการที่เราแสดงความรักแบบในคลิป เช่น กอด จูบ สัมผัส จะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้ แล้วถ้ามีเพศสัมพันธ์ จะเกิดอะไรได้บ้างตามมา เช่น ตั้งครรภ์ ติดโรค

บางทีเด็กไม่ได้อยากมีเซ็กส์ แต่มันก็ห้ามไม่ได้ถ้าอารมณ์พาไป เพราะฉะนั้นก็ต้องป้องกันก่อนที่จะไปสู่ขั้นตอนเหล่านั้น

ถ้าสมมติว่าลูกมีแฟนก็ไม่ควรดูคลิปเหล่านี้ตามลำพังสองคน ไม่ไปเที่ยวในที่ลับตาคน โดยเฉพาะไปบ้านของแฟน ไปอยู่ในห้องกันสองต่อสอง เพราะการอยู่ตามลำพังจะนำไปสู่การมีเซ็กส์แบบไม่ได้ตั้งใจได้

ส่วนใหญ่เด็กที่มีเซ็กส์โดยไม่ได้เตรียมพร้อม ก็เพราะไม่รู้เรื่องแบบนี้เท่าไหร่ เด็กหลายๆคนเป็นเด็กดี พ่อแม่ก็เอาใจใส่ แต่ขาดอยู่อย่างเดียวคือ พ่อแม่ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กับลูก เพราะความตะขิดตะขวง เขินอาย เด็กเลยไม่มีความรู้เท่าทัน

แต่ถ้าไม่คุยเรื่องนี้กับเด็ก ก็อาจนำมาซึ่งผลกระทบที่บางทีไม่อยากให้เกิดขึ้น

อ่านต้นฉบับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน