ชาวบ้านเขาดิน จ.ฉะเชิงเทรา รวมตัวเรียกร้องให้มี EEC วอนรัฐบาลอย่าหลงเชื่อข้อมูลผิด ๆ จากผู้หวังผลประโยชน์นอกพื้นที่

จากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ โดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรค พร้อมด้วย น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.ชลบุรี และ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ร่วมแถลงกรณีมีประชาชนหลายชุมชนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ชลบุรี ได้ทำหนังสือร้องเรียนมายังพรรคอนาคตใหม่หลายครั้ง ระบุได้รับผลกระทบจากการใช้ผังเมือง EEC และขอเรียกร้องให้สำนักงานพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ยุติการพิจารณาให้ความเห็นชอบผังเมืองรวม EEC และดำเนินการจัดทำใหม่ตั้งแต่ต้นโดยให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีโอกาสเข้าร่วมนั้น

ล่าสุดชาวบ้านต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รวมตัวชี้แจงถึงข้อเท็จจริง โดยระบุ อย่าเอาพื้นที่เขาดินเป็นพื้นที่ที่ต่อสู้ทางการเมือง ขอให้สงสารคนในพื้นที่ ที่ต้องการความเป็นธรรม และมีความเจริญในพื้นที่ ซึ่งที่ตรงนี้ไม่ได้เหมาะกับการเกษตรตามที่ข่าวนำเสนอ ไม่มีนายทุนมาบีบให้ขาย หรือถมดินล้อมบ้านเพื่อขับไล่ ตรงกันข้ามโครงการที่มาตั้งในพื้นที่มาจัดสรรสร้างที่อยู่อาศัยเป็นหมู่บ้านฯ เพื่อช่วยเหลือคนที่ไม่มีพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งเกิดมาก็ไม่เคยได้ยินว่ามีโครงการไหนที่ทำให้ขนาดนี้

โดยตัวแทนขาวบ้าน กล่าวยืนยัน ไม่มี 75 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนตามที่อ้าง คนที่มาเรียกร้องก็ไม่ใช่คนในพื้นที่ เป็นคนนอกพื้นที่ที่หวังผลประโยชน์ ปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้างใด ๆ ที่ขวางทางน้ำตามที่กล่าวอ้าง การทำเกษตรกรรมเป็นสิ่งที่ดีและเป็นที่ภาคภูมิใจของคนทั้งประเทศ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าคนในพื้นที่ส่วนใหญ่จริง ๆ แล้วต้องการอะไร

ชาวบ้าน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันพื้นที่โครงการไม่ได้เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ ทำการเกษตรก็ได้ผลผลิตไม่มาก ดูจากจำนวนคนที่ทำการเกษตรในบริเวณนี้ก็มีไม่กี่ครัวเรือน ที่พูดและกล่าวอ้างว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวทำการเกษตร จริง ๆ แล้วส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนไม่ใช่ตรงพื้นที่โครงการ เพราะพื้นที่ดังกล่าวปลูกข้าวก็เสียหาย น้ำไม่มี น้ำเค็มไหลย้อนเข้ามา พื้นที่แบบนี้จะให้ชาวบ้านทำอะไร มีโครงการดีๆ ก็มีกลุ่มบุคคลมาปลุกกระแสเพื่อหวังประโยชน์

“ชาวบ้าน ผ่านร้อนผ่านหนาวร่วมทุกข์ร่วมสุขกับโครงการมาอย่างยาวนาน พอจะได้รับการบังคับใช้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กลับถูกกลุ่มคนไม่หวังดี เข้ามาขัดขวางก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ในทุกวิถีทาง เพื่อให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินงานของโครงการ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับชาว ต.เขาดิน ในทุกครัวเรือน และเพื่อต้องการให้มีการพัฒนาโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามแผนโครงการฯ ให้มีประสิทธิผลและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงรวมตัวกัน เพื่อแสดงจุดยืนความต้องการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นไปตามนโยบายของทางราชการ และเพื่อความเจริญในพื้นที่ของพี่น้องชาว ต.เขาดิน” หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน กล่าว

ด้าน ดร.โชคป์ทวี อ้นถาวร กำนันตำบลเขาดิน ในฐานะผู้นำท้องถิ่น กล่าวว่า ตนและชาวบ้านต.เขาดิน ขอฝากถึงรัฐบาลว่า อย่าหลงเชื่อกลุ่มบุคคลนอกพื้นที่ที่อ้างตัวว่ารักษาผลประโยชน์ของชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และขอย้ำว่าผู้นำชุมชน และชาวบ้านตำบลเขาดินที่นี่ สนับสนุน EEC ต้องการความเจริญ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากมีโครงการเกิดขึ้น จะทำให้เกิดการจ้างงาน คนในชุมชนได้ทำงานใกล้ครอบครัว ลูก ๆ หลาน ๆ ที่เรียนจบมาจะได้ทำงานใกล้บ้าน

ดร.โชคป์ทวี กล่าวต่อว่า อีกทั้งจะทำให้มีรายได้จากภาษีท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาสาธารณูปโภคและความเป็นอยู่ที่ดี คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจและการค้าในชุมชนดีขึ้น ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี สามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเมืองน่าอยู่ เมืองแห่งความสุข สอดคล้องกับนโยบาย Smart City ของจังหวัดฉะเชิงเทรา

ขณะที่ นายประกอบ เทพประสิทธิ์ ชาวบ้านเขาดินประกอบอาชีพเลี้ยงปลา กล่าวว่า ตนอยู่ที่นี่มา 20 ปีตอนแรกเช่าที่ทำนา ต่อมาดินเปรี้ยว ระบบน้ำเสียคือน้ำเค็มดันน้ำจืดทำให้ปลูกข้าวไม่ได้ ก็เลยขุดบ่อเลี้ยงปลาเสียเลย ทว่าการเลี้ยงปลาก็เป็นเพียงการเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร คือปล่อยให้โตตามธรรมชาติ จับขึ้นมาก็กินกันในครัวเรือนเหลือนิดหน่อยก็ขายบ้างแค่นั้น ไม่สามารถเลี้ยงเป็นการค้าเพราะต้นทุนสูงไม่มีเงินทุนซื้อหัวอาหารมาเลี้ยง ตอนนี้อาชีพหลักคือทำงานบริษัทเอกชนในละแวกใกล้เคียง เลี้ยงปลาเป็นเพียงรายได้เสริม และก็รอว่าเมื่อไหร่โครงการ อีอีซี จะรุดหน้าเผื่อจะได้ลงทุนค้าขายหาอาชีพใหม่ทำบ้าง พวกเราชาวเขาดินรอคอยความเจริญ พร้อมโอกาสใหม่ๆที่ดีที่จะเข้ามาอยู่

ส่วน นายมงคล ใบทอง ชาวนา ม.7 ต.เขาดิน บอกว่า 2-3 ปี ที่ผ่านมา รวมทั่งปีนี้ ยังไม่ได้ทำนาเลยเพราะน้ำจืดไม่มา ปีนี้แล้ง แถมเราอยูนอกเขตชลประทานอีก แม้แต่ในเขื่อนยังไม่มีน้ำ จะเอาน้ำไหนปล่อยมา ปกติเดือนมิถุนายนก็ต้องได้เริ่มทำนากันแล้ว เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ซื้อมา 5,000 บาทนั้น คงต้องนำไปคืนหรือไปเร่ขาย

นายมงคล กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ อีอีซี ที่ชาวเขาดินรอคอยน่าจะเร่งดำเนินการ ลูกหลานจะได้กลับมาทำงานใกล้บ้าน จะได้อยู่กับครอบครัว ส่วนคนที่ต่อต้านโครงการไม่คิดว่าเป็นชาวเขาดิน เพราะไม่ได้เข้าใจสภาพความเป็นจริงในพื้นที่ว่าตอนนี้ทำนาปลูกข้าวไม่ได้เลย คนรุ่นใหม่ๆ เองก็ทำนากันไม่เป็นแล้ว หมดรุ่นลุงคงจะหมด อยากให้รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ลงมาดูแลสภาพความเป็นอยู่ของชาวเขาดินว่าต้องการอะไร มีอะไรพอจะช่วยพวกเราชาวบ้านได้บ้างก็จะดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน