เมียร่ำไห้ ใหญ่ เปิดชีวิตคู่ อดีตนางงาม รักแรก รักเดียว 25 ปี ลูกเผยพ่อแม่ทะเลาะจบสุดพลิก

แฝดนรก ฉายาที่ใครๆเรียก ชีวิตจริงตรงข้าม – ใหญ่ ฝันดี แต่มุมชีวิตครอบครัว มีรักแรก รักเดียว รักมั่นคง มาตลอด โดย ใหญ่ ฝันดี กับ สา ธนวรรณ อดีตนางงาม แต่งงานตั้งแต่เด็ก อายุ 20-21 ปี หลังคบ 3 ปี ซุ่มคบตั้งแต่อายุ 16-17 แม้แต่เพื่อนสนิทก็ไม่บอก รู้กันแต่คนในครอบครัว

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

รักแรกพบ เจอกันครั้งแรก ขณะไปทำงานบนเรือยอชต์ แต่งงาน มีแขกทั้งสองฝ่าย 50 คน พร้อมเผยเรื่องราวความรัก ที่ทั้งคู่มีให้กัน แม้ไม่พูดเยอะ แต่รักกันมาก

เมียถึงกับหลั่งน้ำตาว่า รักใหญ่ รักครอบครัว จนสามีต้องกอดปลอบ เขาอาจไม่ได้เป็นสามีที่ดีมาก แต่เขาเต็มให้เราทุกอย่าง

ขณะที่ลูกสาว เผยเหตุการณ์พ่อแม่ทะเลาะจุดจบน่ารัก ลองไปฟังเรื่องราวความรักอดีตซุปตาร์ฝาแฝด








Advertisement

จุดเริ่มต้นบอยแบนด์เจอกับนางงาม เจอกันได้ยังไง ?
สา : ตอนนั้นใหญ่เค้าเป็นนักร้อง สาเป็นนางงามแล้วไปงานด้วยกัน พอดีมีพี่ที่รู้จักเค้าไปงาน เราก็ไป เค้าก็ไป

แต่ที่ที่เจอไม่ใช่บนพื้นดินเจอกันบนเรือยอร์ช เรือแล่นออกไปแล้วตีวงกลับมารับ ฝันดี-ฝันเด่น เรื่องมันยังไง ?
ใหญ่ : ไปสาย เราติดงานแต่ทางผู้ใหญ่เค้าอยากให้ไป

งานวันนั้นงานอะไร ?
ใหญ่ : เป็นงานวันเกิดล่องเรือจากแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเรือส่วนตัวข้างบนมีดนตรีเล่น

ตอนนั้นอายุเท่าไหร่ ?
ใหญ่ : 16-17 พอ พอขึ้นไปข้างบนเราก็มองไปที่หัวเรือ เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวผมยาวอยู่ตรงหัวเรือ

แล้วเรารู้มั้นว่าเค้าเป็นนางงามขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนเวทีนางสาวไทย ปี2536 ?
ใหญ่ : ไม่รู้ เหมือนออกจากกะลามาแล้วแค่เจอคนที่เราชื่นชอบก็ให้คนไปขอเบอร์ ขอเบอร์เสร็จก็เก็บใส่กระเป๋า

แล้วเค้าสนใจเรามั้ย ?
ใหญ่ : ก็คุยบ้างเล็กๆน้อยๆ

หลังจากที่ใหญ่ได้เบอร์สาไปหายไปกี่เดือน ?
สา : ประมาณเดือนนึงมั้ง

หายไป 1 เดือน ไปทำอะไร ?
ใหญ่ : ทำงาน ตอนนั้นทัวร์คอนเสิร์ตอยู่

แล้วเบอร์ไม่ได้ดึงดูดคุณขนาดนั้นเลยหรอ ?
ใหญ่ : หาย เมาไง หยิบไปหยิบมาแล้วหายไปไหนก็ไม่รู้ แต่เราก็ยังจำได้ว่าต้องหาเบอร์

แล้วทำยังไงล่ะ ?
ใหญ่ : คนเราจะตามหาสิ่งหนึ่งที่อยากได้คำตอบมันไม่ยากหรอก ดังนั้นเราต้องโทรหาเจ้าของงานวันเกิดซิ เราโทรไปก็บอกว่าลักษณะแบบนี้ๆ เค้าก็บอกว่าอ๋อ…น้องสา แต่พี่ไม่รู้นะว่าบ้านเค้าอยู่ที่ไหนยังไง แต่เดี๋ยวพี่หาเบอร์ให้

พอเค้าโทรมาเค้าโทรมายังไง ?
ใหญ่ : ก็คุยปกติ หวัดดีสาจำได้มั้ยใหญ่เอง เค้าก็ถามว่าหายไหน เราก็บอกว่าทำงานออนทัวร์พอไปทีไป 20 วัน ออนทัวร์สมัยกก่อน 20 จังหวัดไปทีเป็นเดือน พอคุยปุ๊ปเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามากเราก็บอกว่าวันนี้ว่างไปกินข้าวกันมั้ย

แล้วสาว่ายังไง ?
สา : ไม่ได้รู้สึกอะไรก็เป็นเพื่อนจริงๆ ความรู้สึกสาเป็นเหมือนเพื่อนจริงๆ เราไม่ได้เจอเค้าแล้วปิ๊งเค้าเหมือนที่เค้าเป็นกับเรา พอเราคุยกันได้ซักพักนึงรู้สึกว่าเค้าน่ารัก ความคิดของเค้าดูโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็รู้แล้วว่าเค้าจีบเรา หลังจากคุยกันได้ซักพักนึงเค้าก็บอกว่าเค้าว่างงานจะทานข้าวกันได้มั้ย

แล้วเดทแรกเป็นยังไงบ้าง ประทับใจเค้ามั้ย เค้าเทคแคร์ดูแลเรามั้ย ?
สา : ก็น่ารักดี พอมาคุยแล้วรู้สึกเค้าเป็นผู้ใหญ่ ความคิดเค้าโต
ใหญ่ : พอกินข้าวเสร็จก็ถามเค้าว่าไปเที่ยวต่อมั้ย เดี๋ยวพาไป เราก็พาไปสีลมเราอยากให้เค้าสนุกมั้งเลยพาไปโรม แต่เข้าไปแป๊ปเดียวไปดูเสร็จแล้วก็เดินออกมา

ตอนนั้นไม่มี Google Map มีแต่มือถือแต่คุณใหญ่สามารถสืบได้ว่าบ้านคุณสาอยู่ไหน ?
ใหญ่ : ได้แต่เบอร์โทรศัพท์มือถือมาเราก็ต้องไปตามหาบ้านเลขที่ หลังจากนั้นเราก็ต้องไปเปิด Yellow Pages (สมุดหน้าเหลือง) เราก็ดูว่าชื่อพ่อ ชื่อแม่เค้าชื่ออะไร นามสกุลอะไรพอมีที่อยู่ปุ๊ปเราก็ใช้เบอร์โทรศัพท์โทรไป 1133 โทรไปเพื่อถามว่ามันอยู่ตรงไหน เพราะบ้านเราอยู่พระราม2 แต่บ้านเค้าอยู่ตรงลาดพร้าว 80 อยากได้ลูกเสือเราต้องไปแถวบริเวณถ้ำเสือ พอไปถึงหน้าบ้านก็โทรหาเค้า เห็นรถเค้าจอดอยู่แล้ว เราก็บอกว่าเปิดหน้าต่างมาซิเดี๋ยวจะเห็น เราก็ยืนหล่อเลยในโทรศัพท์เค้าก็บอกว่า อ๋อเห็นแล้ว แล้วเราก็ขับรถไปเลย

แล้วตอนนั้นสารู้สึกยังไง ?
สา : ตกใจค่ะ เพราะว่ายังไม่ได้เปิดตัวเอง ไม่ได้อยากบอกเค้าว่าบ้านอยู่ไหน เราเหมือนอยากคุยมากกว่า
ใหญ่ : หลังจากนั้นลืมเล่าเรื่องนึงเป็นความประทับใจแล้วก็จำตลอดเลย วันนั้นตอนเราเป็นแฟนกันแล้ว เราก็บอกเค้าว่าเดี๋ยวเราจะไปลงเรือที่ครั้งแรกเราเจอกัน ตอนนั้นเราขับรถของเราไป BMW เตี้ย โหลดไปที่ท่าน้ำซึ่งพอไปถึงน้ำท่วม มาถึงแล้วก็ต้องไป น้ำเข้าถึงในรถครึ่งแข้ง รถเราต่ำกว่าทางขึ้นก็เลยให้สาปีนเข้าข้างหลัง ชุดสาก็สีขาวเหมือนเดิม เราให้เค้าปีนขึ้นไปเพื่อดึงเราขึ้นไปเพราะรถเตี้ย สิ่งที่เกิดขึ้นคือล้มลงไปในน้ำทั้งคู่เลยสรุปเปียกทั้งคู่แล้วก็กลับ พอสตาร์ทรถไม่ติดน้ำเข้าท่อ เป็นภาพจำ หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกัน 5-6 เดือนก็เป็นแฟน กินข้าว แต่เราจะไม่มีเวลาตลอด 24 ชม. เพราะเราต้องทัวร์คอนเสิร์ต

ทำไมพี่สาตัดสินใจคบกับพี่ใหญ่ ?
สา : ก็อาจจะเป็นนิสัยเค้ามีความคิด โตกว่าเราด้วยซ้ำไปเค้าคิดได้เยอะกว่าเรา

ตอนคบกันแรกๆหลบๆซ่อนๆ เพราะศิลปินสมัยก่อนห้ามเปิดตัวแฟน ?
ใหญ่ : ก็ปกติ แต่ก็ไม่ได้โฉ่งฉ่างอะไร

แล้วทำไมเราไม่เห็นข่าวเลย ?
ใหญ่ : สมันก่อนยังใช้ Yellow Pages กันอยู่เลย

โดยส่วนใหญ่สาจะเป็นคนระวังตัวมากกว่า เพราะกลัวว่าจะมากระทบกระเทือนหรือเปล่า ?
สา : คบกับเค้าไม่เคยบอกเพื่อนเลย เพื่อนสนิทก็ไม่เคยบอกจะรู้แค่ครอบครัว อาจจะเป็นเพราะว่าเรารู้สึกว่าเค้าเป็นนักร้องมีชื่อเสียงมาก แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราคบกันจะเป็นแฟนกันนานมั้ย

การเห็นสาเป็นรักครั้งแรกของเราหรือเปล่า ?
ใหญ่ : เอาจริงๆนะ ไม่ตลกเลยนะ ครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบันนี้

แสดงว่านี่คือรักแรกพบแล้วก็รักเดียวของพี่ใหญ่เลย ?
ใหญ่ : ใช่

แล้วคบกันนานมั้ยถึงตัดสินใจแต่งงานกัน ?
ใหญ่ : ประมาณปี 2539 คบกัน 3 ปี คบกันตั้งแต่ปี 2536

พี่ก็แต่งงานกันเร็วนะ ?
ใหญ่ : แต่งงานกันตอนอายุ 20-21 เป็นแฟนกันตอนอายุ 16-17

แขกในงานประมาณกี่คน ?
ใหญ่ : มีพ่อแม่ ญาติๆ ฝั่งเค้า ฝั่งเราประมาณ 50 คน

ด้วยความที่แต่งงานแบบส่วนตัวมารู้อีกทีว่ามีลูกแล้ว เค้าก็เลยนึกว่าท้องก่อนแต่ง ?
ใหญ่ : ใช่ ก็มีกระแสข่าว แต่ก็มีนักข่าวที่รู้จักเราเค้ารู้ว่ามันเป็นยังไง พอไปออกโทรทัศน์ถึงรู้ว่าลูกใหญ่แล้วก็อุ้มเจแปนตอนผ่านไปอีก 2 ปีครึ่งตอนเป็นทหาร

ใหญ่ไม่ได้ทำงานแค่เป็นดารา นักแสดง พิธีกร ทำจิตอาสาด้วย เราไม่รู้สึกว่าโดนแบ่งเวลาหรอ ?
สา : ไม่รู้สึก เพราะมีความรู้สึกว่าอะไรที่เค้าชอบก็อยากให้เค้าทำให้เต็มที่

ตอนสึนามิปีอะไรนะ ?
ใหญ่ : ปี 47

ก็ 10 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นเรารู้จักกันแล้วตอนนั้นสาโทรมาแล้วก็ร้องไห้กับพี่ (ท็อป ดารณีนุช) ว่าทำยังไงดีใหญ่ไม่กลับบ้านเลยแล้วสาก็ห่วงว่าถ้าสึนามิมันกลับมาอีกรอบนึงจะทำยังไง ?
ใหญ่ : แต่ใจมันไปตรงนั้นแล้วเรารักในแบบนั้น บางทีมันก็มีคำถามสาถามว่าเธอบางทีมันมากไปขนาดนี้ เมื่อสิ่งนั้นมันห้ามตัวใหญ่ไม่ได้ให้ใหญ่ไปทำสิ่งนั้นเหอะ ต่อให้ใหญ่อยู่ที่นี่ใหญ่ก็เหมือนไฟใหญ่ก็ไม่คุยกับสา
สา : มันเหมือนกับว่าเค้าอยู่ที่นี่หรืออยู่ที่มีเหตุก็มีค่าเท่ากัน เค้าอยู่กับเราเค้าก็คุยติดต่อประสานช่วยเหลือตลอดมีค่าเท่ากัน ก็ให้เค้าไป ห่วงมั้ยห่วงมาก เพราะตอนนั้นสึนามิมาจะแจ้งเตือนเรื่อยๆก็ไม่มีใครก็เลยโทรหาพี่ท็อปอย่างที่บอก

แล้วใหญ่ไปหลงใหลจิตอาสาติดนิสัยมาจากใคร ?
ใหญ่ : จากแม่เราเนี่ยแหละ ตอนเด็กๆเดี๋ยวแหมะก็ไปโน่นไปนี่ไปช่วย มีคำพูดนึง “แหมะพวกหนูยังเล็กๆกันอยู่เลยทำไมแหมะไม่เคยอยู่ดูเลย” แหมะก็เลยบอกว่าวันนึงจะรู้พอเราโตก็อ๋อรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง เวลามันถูกบังคับให้ต้องไปช่วยคน บังคับในที่นี้ไม่ได้คนมาบังคับนะแต่จิตใจเรามันไป อยู่ในที่ที่สงบแต่เราไม่สงบ อยู่ในที่ที่เป็นทุกข์เรากลับมีความสุขและสงบในสิ่งที่เราได้ทำมันเป็นอย่างนั้นมากกว่า

พี่สองคนแสดงออกความรักกันยังไง ?
ใหญ่ : ปัจจุบันก็พยายามทำให้มากขึ้น คือสาเค้าไม่ได้เป็นแบบเยอะๆที่จะแบบ อยากกินอะไร งอนอะไร อยากได้อะไร เค้าจะไม่ใช่

มีโอกาสได้บอกรักกันบ่อยมั้ย ?
ใหญ่ : น้อย

สาอยากจะบอกอะไรใหญ่ ?
สา : ก็จะบอกว่าเรารักเค้า รักครอบครัว ทุกอย่างที่ทำให้ก็คือมันมาจากข้างใน

เค้าเป็นสามีที่ดียังไงบ้าง ?
สา : ก็อาจจะไม่ดีมากแต่เค้าเป็นให้เราทุกอย่าง

ตอนเด็กๆรู้ตัวมั้ยว่าเราเป็นลูกคนดังซุปเปอร์สตาร์ ?
จินนี่ : รู้ค่ะ เพราะเวลาไปข้างนอกจะมีคนมาขอถ่ายรูปกับป๊า เคยเห็นละคร เคยโทรไปร้องไห้กับป๊าถามว่าป๊าอยู่ไหนเพราะฉากนั้นเป็นฉากที่ป๊าโดนยิง

แล้วเจแปนมีเพื่อนมาบอกมั้ยว่าพ่อเราเป็นดูโอ้ ?
เจแปน : เป็นอาจารย์ส่วนใหญ่ เพื่อนก็รู้จัก

ลูกสองคนนิสัยเป็นยังไงบ้าง ?
สา : น้องจินนี่จะนิสัยเหมือนใหญ่เป็นคนพูดเยอะ กล้าแสดงออก ส่วนเจแปนจะเหมือนสาไม่ค่อยพูด ชอบฟังมากกว่า

ป๊ากับแม่กลัวใครมากกว่ากัน ?
เจแปน : ป๊าจะดุกว่า
จินนี่ : ป๊าไม่ดุนะ

ส่วนใหญ่คุณพ่อ คุณแม่ทะเลาะกันเรื่องอะไร ?
จินนี่ : ไม่ค่อยเป็นเรื่องใหญ่แบบเลือกร้านข้าวไม่ได้ เหมือนแม่จะบ่นป๊าแต่จะไม่ว่าป๊าโดยตรงแต่จะว่ามาที่จิน

พี่สารู้เรื่องสัมผัสพิเศษพี่ใหญ่บ้างมั้ย ?
สา : รู้ค่ะ เพราะตั้งแต่คบกันแรกๆเค้าก็ชอบบอกว่าเค้าเห็นอันนี้ เราก็ฟัง

แล้วสาเคยขอให้ใหญ่ดูดวงให้หรือสัมผัสพิเศษอะไรให้เราบ้างมั้ย ?
สา : เคย ตอนนั้นนานมากแล้วบอกว่าดูให้หน่อยซิ เค้าบอกดูไม่ได้
ใหญ่ : เราอยากดูหมดทุกคนแหละ แต่มันดูไม่ได้ ไม่เห็นไรเลย

แล้วเวลาปกติถ้าพี่จะเห็นพี่เห็นยังไง ?
ใหญ่ : มันจะป๊ะกันพอดี เส้นกาลเวลามันพอดีกัน เรามองอีกแบบนึงนะ มันเกิดเป็นภาพขึ้นมาแล้วเราก็เห็นสิ่งนี้ ไปถ่ายรายการแต่งหน้าอยู่เรามองไปตรงบันได ทำไมเห็นผู้หญิงถือมีดยืนปาดคออยู่

จริงๆแล้วพี่ใหญ่เคยเห็นแบบนี้แต่เป็นภัยพิบัติแล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ?
ใหญ่ : เราเห็นยังไม่เท่าไหร่กับการที่เรารู้สึกว่าเราถูกสั่งให้ทำในสิ่งนี้จะเจอแบบนี้มากกว่า สมมุติว่าตึกถล่มมันยังไม่เกิดเหตุ แต่เราเห็นภาพตึกถล่มแล้วเราก็ดำเนินการซ้อมแผนเรื่องตึกถล่มใช้เทคนิคอย่างนี้ อุปกรณ์ใช้อะไรบ้างพอฝึกเสร็จไม่เกินอาทิตย์นึงก็ตึกถล่ม แล้วเราก็ใช้แบบเดียวกัน มันถึงพ่วงกันว่าทำไมทีมของใหญ่กับเล็กถึงที่เกิดเหตุก่อน หนึ่งเพราะมันมีข้อมูลที่เราหาจากโลกโซเชียล ข้อมูลดิบนะ สองเราดันไปอยู่ศูนย์กลางของเหตุการณ์

เวลาที่พี่เห็นโหดสุดของเหตุการณ์พี่เห็นยังไง ?
ใหญ่ : มันก็เห็นเป็นเงาจากกำแพงมา เรายังไม่ได้นอนเลย ก็เป็นรูปคนเป็นเงาออกมาจากกำแพงเราก็มองเลื่อนลงมาใต้เท้าแต่เราเห็นอีกทีคือโผล่มาปลายเท้าเราเหมือนในหนังเลยก็โผล่มาเป็นเงาคนตัวใหญ่ แต่มันเป็นฟุ้งๆ แต่มันเป็นรูปร่างมันแตกได้ แต่พอมันเอื้อมมาจะบีบคอเราเราก็ง้างขาเอาไว้แล้ว ถีบเลย แล้วเราก็เห็นเงาเข้าไปในกำแพง เราก็บอกว่าอย่าให้แช่งนะ เดี๋ยวไม่ได้เกิดเลย

แล้วพี่จะเป็นหมอดูเลยมั้ย ?
ใหญ่ : ไม่ เราไม่ได้เรียนมาแบบนั้น เราไม่ได้ไขว่คว้าจะเรียน มันไม่มีอะไรเลยตัวเรา มันมีอย่างเดียวคือมันไปกับเรา ไม่ใช่ว่าแบมือแล้วดูเส้น ไม่มี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน