พช.-สภาสตรีแห่งชาติฯ ลงพื้นที่เคหะห้วยขวาง มอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการบริหารคณะกรรมการฝ่ายต่างประเทศสภาสตรีแห่งชาติฯ

เดินทางไปมอบถุงยังชีพ 300 ชุด ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน”สภาสตรีแห่งชาติฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2563 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ มอบให้กับ ชาวเคหะชุมชน ห้วยขวาง กทม. โดยมี นางจรูญ กิตติพรพรรณ หัวหน้าเคหะนครหลวงสาขาห้วยขวาง กล่าวต้อนรับ ณ สนามกีฬาเอนกประสงค์ เคหะชุมชนห้วยขวาง กทม.

ดร.วันดี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะและการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะรายได้ของประชาชน สภาสตรีแห่งชาติฯ จึงได้จัดทำโครงการ เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน สภาสตรีแห่งชาติฯพร้อมด้วยองค์กรสมาชิก จึงได้จัดถุงยังชีพประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง กระปิ น้ำมัน น้ำตาล และอื่นๆ เพื่อนำไปมอบให้แก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อเป็นการแบ่งบันความสุข โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวมพลังกลุ่มองค์กรสตรีทั่วประเทศ ร่วมใจกันแบ่งปันสิ่งของ รวมพลังน้ำใจสู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและทางอ้อม และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของหน่วยงานภาครัฐ ในบทบาทที่สตรีไทยสามารถช่วยสนันสนุนได้ในภาวะวิกฤติต่างๆที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะวิกฤตโรคโควิด-19

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวให้กำลังใจและเชิญชวนพี่น้องทุกครัวเรือนร่วมใจกันปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงด้านอาหารและลดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชนกำหนดปฏิบัติการ 90 วัน นับจากวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เชิญชวนให้ประชาชนทุกครัวเรือนทั้งประเทศ ปลูกผักสวนครัวให้ครบทุกครัวเรือนเพื่อลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 50 บาท/ครัวเรือน/วันจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนได้กว่า 200,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี อย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนช่วงโควิด-19 ระบาดได้ช่วงเวลาหนึ่ง และถือเป็นโครงการที่ต่างชาติก็ยกย่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน