บิ๊กป้อม มอบนโยบาย‘บจธ.’ช่วยประชาชน เร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน

วันที่ 17 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือบจธ. ประชุมมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติแก่ คณะกรรมการ และผู้บริหารสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน นอกจากนี้มีผู้วาราชการจังหวัดเข้าร่วมประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายในที่ประชุมว่า รัฐบาล ได้ให้ความสําคัญ กับการแก้ปัญหา? ความเหลื่อมล้ำในที่ดินทํากิน ที่อยู่อาศัย และ ความยากจน ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทํากิน และไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

รวมถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการจํานวนมากปิดกิจการ ทําให้ประชาชนไม่มีงานทําและขาดรายได้ในการดํารงชีพ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน จึงเป็นหน่วยงานที่มีความสําคัญ ในการแก้ปัญหาดังกล่าว ในการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่ดิน ทํากิน และที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยต้องเร่งกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน รวมทั้งป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดิน จากการจํานอง การขายฝาก และการถูกบังคับคดี ให้ได้ที่ดินกลับคืนมา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนจํานวนมากเดินทางกลับภูมิลําเนาและไม่มีที่ดินทํากิน บจธ. ต้องให้ความช่วยเหลือ

โดยน้อมนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกพื้นที่ ด้วยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รัฐบาลต้องจัดตั้งธนาคารที่ดิน หรือองค์การ อื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์ในลักษณะทํานองเดียวกับ ธนาคารที่ดิน เพื่อแก้ไขที่ดินทํากิน และที่อยู่อาศัย ให้ได้อย่างแท้จริง สถาบันบริหารจัดการธนาคาร

ที่ดินจะเป็นเครื่องมือสําคัญของรัฐบาล ในการดําเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและ ความยากจน เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และ ยั่งยืน ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง ตาม วิถีปกติใหม่หรือ New normal ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญของโลก และประเทศไทยขอขอบคุณ และเป็นกําลังใจในการปฏิบัติให้กับทุกท่าน

ด้านพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีในการดำเนินการ ของ บจธ. มีผลการดำเนินงานประสบผลความสำเร็จตามภารกิจ โดยให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ยากจนไปแล้ว จำนวน 1,257 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 4,521-1-71.8 ไร่ ได้แก่ โครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร จำนวน 380 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 1,458-2-58.6 ไร่ โครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จำนวน 324 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 2,218-3-45.9 ไร่

โครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน จำนวน 500 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 740-1-16 ไร่. โครงการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาด้านที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ จำนวน 53 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 103-2-57.3 ไร่. และการจัดตั้งหน่วยงาน ที่มีวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาด้านที่ดิน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมอย่างยั่งยืน บจธ. ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน หรือองค์การอื่นที่มีวัตถุประสงค์ในลักษณะทำนองเดียวกับธนาคารที่ดิน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2563”

ทั้งนี้ในอนาคตบจธ. จะช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน โดยการกระจายการถือครองที่ดิน ป้องกันการสูญเสียสิทธิ จากการจำนอง ขายฝาก บังคับคดี และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้ประกอบการต้องปิดกิจการ ส่งผลให้ประชาชนว่างงานจำนวนมาก และต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา ประกอบกับไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดย บจธ. จะให้ความช่วยเหลือให้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย อย่างมั่นคงและยั่งยืน ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยใช้เงินงบประมาณ รวม 7,217,046,900 บาท

ภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 10,822 ราย เนื้อที่ 19,281 ไร่ ได้แก่ โครงการกระจายการถือครองที่ดิน จำนวน 4,421 ราย เนื้อที่ 16,744 ไร่ โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ/จะสูญเสียสิทธิในที่ดินจำนวน 462 ราย เนื้อที่ 2,537 ไร่ โครงการต้นกล้าคืนถิ่น จำนวน 462 ราย โครงการส่งเสริมศักยภาพชุมชน จำนวน 4,883 ราย

โดยทุกโครงการของ บจธ. น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อให้เกษตรกรและผู้ยากจนสามารถดำรงชีพมีความมั่นคงในที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว พึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งและมีศักดิ์ศรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน