“ท็อป”วราวุธ รมว.ทส.เดินตามรอยพ่อเร่งรัดขับเคลื่อนกฎหมายว่าด้วยป่าชุมชน ระบุหากผ่านกม.ประกาศใช้แล้ว ชุมชนสามารถจัดตั้งป่าชุมชนและได้ประโยชน์จากป่าชุมชน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ได้กล่าวว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นกฎหมายด้านป่าไม้ที่เปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐในการดูแลรักษา บริหารจัดการป่าไม้ใกล้หมู่บ้าน รวมไปถึงสามารถใช้ประโยชน์จากป่าได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่กำหนด

“ความภาคภูมิใจว่า วันนี้ที่ได้มาทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มาสานต่องานที่คุณพ่อตนเองได้ริเริ่มเอาไว้ คือ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2538 ในครั้งนั้นนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายเร่งรัดการออกกฎหมายว่าด้วยป่าชุมชน นับว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

โดยการส่งเสริมให้ประชาชน องค์กรประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในรูปแบบของป่าชุมชน และในวันนี้สิ่งที่ผมได้รับมรดกจากพ่อมา คือการได้มาบริหารจัดการนโยบายป่าชุมชน ต่อจากพ่อของผม และได้มาเป็นรัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ผมจะทำหน้าที่เร่งรัดให้มีการออกกฎหมายอนุบัญญัติซึ่งมีจำนวน 32 ฉบับ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

โดยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน (คนช.) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมามีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในการนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เสนอกฎกระทรวงจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 1) กฎกระทรวงกำหนดพื้นที่ให้เป็นเขตป่าอนุรักษ์ พ.ศ. …. 2) กฎกระทรวงกำหนดไม้ทรงคุณค่า พ.ศ. …. เพื่อให้ คนช. ให้ข้อเสนอแนะประกอบการพิจารณา ตราเป็นกฎกระทรวงต่อไป

ทส.เร่งหารือเครือข่ายป่าชุมชนเพื่อยกร่างกฎหมายลูกพ.ร.บ.ป่าชุมชน

รมว.ทส. ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ภายหลังจากที่อนุบัญญัติเหล่านี้ได้ประกาศใช้แล้วจะทำให้ชุมชนสามารถจัดตั้งป่าชุมชนและได้รับประโยชน์จากป่าชุมชน จะเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นให้มีส่วนในการจัดการป่าชุมชน ส่งผลให้ทรัพยากรป่าไม้ และสิ่งแวดล้อมของประเทศมีความสมบูรณ์และยั่งยืน

ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่อยากจะเป็นเครื่องเตือนใจให้กับพี่น้องประชาชนทราบว่าเรากำลังพิทักษ์ป่า กำลังดูแลทรัพยากรธรรมชาติเพื่อลูกหลานของเรา และจะส่งต่อโลกใบนี้ เราจะส่งต่อพื้นที่ของประเทศไทย 300 กว่าล้านไร่ ในสภาพที่ดีให้กับลูกหลานของเรา

“เหมือนอย่างวันนี้ผมรับมอบหมายจากพ่อผมแล้วผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป จึงขอฝากพี่น้องประชาชนทุกคนนะครับว่าถ้าเราไม่เริ่มดูแลป่าของเราวันนี้ ถ้าเราไม่เริ่มที่จะฟื้นฟูป่าของเราวันนี้ แล้วเราจะเริ่มกันวันไหนแล้วใครจะเป็นคนทำ”

สร้างป่าชุมชนเพื่อลูกหลาน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวพิ่มเติมว่า กฎหมายอนุบัญญัติที่ได้ประกาศมีผลบังคับใช้แล้วจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ 1.ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการจดแจ้งเป็นเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด พ.ศ. 2562 ​2.ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการจดแจ้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. 2562

3.ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ 4. ระเบียบคณะกรรมการสรรหา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา และการเสนอรายชื่อบุคคลเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน พ.ศ. 2563

คนช.มีมติเห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนจำนวน 7 ฉบับ ได้แก่ 1. ระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการได้มา และการแต่งตั้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐเป็นกรรมการในคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัด 2. ระเบียบฯว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดตั้งและขยายเขตป่าชุมชน 3.ระเบียบฯ ว่าด้วยการกำหนดขนาดของพื้นที่ป่าชุมชนและสัดส่วนการใช้ประโยชน์ภายในพื้นที่ป่าชุมชน 4. ระเบียบฯ ว่าด้วยสมาชิกป่าชุมชนและกรรมการจัดการป่าชุมชน พ.ศ. ….

5.ระเบียบฯ ว่าด้วยการจัดทำแผนจัดการป่าชุมชนพ.ศ. …. 6.ระเบียบฯ ว่าด้วยการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของเจ้าหน้าที่ป่าชุมชน 7.ระเบียบฯ ว่าด้วยเบี้ยประชุม ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอย่างอื่นของคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน คณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัด และคณะอนุกรรมการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน