กรมชลประทาน เร่งรัดเดินหน้าโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยบรรเทาภัยแล้ง-น้ำท่วมซ้ำซาก เดินหน้าคืบแล้วกว่า 8.36

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่กรมชลประทาน นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผอ.สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน กล่าวถึงโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 พบมีปริมาณน้ำเหนือไหลหลากลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ถึง 4,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเกินความสามารถในการรับปริมาณน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาที่จะรองรับได้เพียง 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

อีกทั้งข้อเท็จจริงในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ผ่านมาการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพียงปริมาณ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พื้นที่รับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาบางจุดก็เกิดปัญหาอุทกภัยได้ โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงผ่านตัวเมืองพระนครศรีอยุธยาที่มีลักษณะเป็นคอขวด ประสิทธิภาพการระบายน้ำลดลงเหลือเพียง 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำชากเป็นประจำทุกปี และมีผลกระทบรุนแรงในปีที่มีปริมาณน้ำมาก

นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผอ.สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน

ปัญหาดังกล่าว กรมชลประทานจึงจัดทำแผนบรรเทาอุทกภัยเจ้าพระยาตอนล่าง 9 แผนงาน โดยโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น 1 ใน 9 แผนงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา และบรรเทาอุทกภัยในเขตพื้นที่ลุมน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง จึงมีความจำเป็นต้องขุดคลองระบายน้ำสายใหม่

โดยได้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการแล้วเสร็จในปี 2557 และศึกษาทบทวนความเหมาะสมโครงการแล้วเสร็จในปี 2559 จากนั้นคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 เพื่อให้กรมชลประทานดำเนินการกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในขั้นตอนการสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ และงานเตรียมความพร้อมเพื่อการก่อสร้างและมีมติอนุมัติให้ดำเนินการโครงการฯ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562

กำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 – 2566) วงเงิน 21,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างคลองระบายน้ำบรรเทาอุทกภัยตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง

 

การก่อสร้างดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณก่อนเข้าตัวเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ถึง 2,930 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยไม่เกิดผลกระทบกับบ้านเรือนริมตลิ่งที่อยู่ในคันกั้นน้ำ

นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างได้เฉลี่ย 1.9 – 2.5 ล้านไร่/ปี และสามารถลดระดับความลึกของน้ำท่วมลงได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำสำหรับการใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านการเกษตรกรรมรวม 229,138 ไร่

มีแหล่งน้ำสำรองในฤดูแล้งเพื่ออุปโภค-บริโภค 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 48 ตำบล 3 เทศบาล 362 หมู่บ้าน และยังเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำเลี่ยงตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา เป็นถนนบนคันคลองซึ่งจะเป็นเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างอำเภอบางบาล และอำเภอบางไทร และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วย

1.ขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ มีความยาวประมาณ 22.50 กม. ระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลบ.ม./วินาที พร้อม ก่อสร้างถนนผิวจราจรแอสฟัสติคคอนกรีตบนคันคลองทั้ง 2 ฝั่ง ผิวจราจรมีความกว้าง 8 ม.

2.อาคารบังคับน้ำ ประเภทประตูระบายน้ำ จำนวน 1 แห่ง

– ปตร.ปลายคลองระบายน้ำหลาก ขนาดบาน 12.50 x 9.50 ม. จำนวน 4 บาน อัตราการระบายน้ำสูงสุด1,200 ลบ.ม./วินาที และมีประตูเรือสัญจร ขนาดกว้าง 25.00 ม. ยาว 240.00 ม. จำนวน 1 ช่อง

-สะพานรถยนต์ข้ามคลองระบายนํ้าหลาก จำนวน 11 แห่ง

3.อาคารประกอบคลองระบายน้ำ ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำ และท่อระบายน้ำ บริเวณจุดตัดของคลองระบายน้ำหลากกับคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำที่มีอยู่เดิม จำนวน 36 แห่ง

4.กำแพงป้องกันตลิ่งบริเวณปลายคลองจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยาความยาวประมาณ 4.15 กม.

5.ปรับปรุง/ก่อสร้างคันกั้นน้ำรอบพื้นที่โครงการพร้อมอาคารประกอบ ความยาวรวม 54 กม.

ความก้าวหน้าปัจจุบันงานก่อสร้างคลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร มีรายละเอียดดังนี้

1.งานจ้างก่อสร้างคลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร สัญญาที่ 1 (STA. 16+400 ถึง STA. 20+100) ปัจจุบันอยู่ระหว่างผู้รับจ้างเตรียมการก่อสร้าง

2.งานจ้างก่อสร้างคลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร สัญญาที่ 2 (STA. 12+500 ถึง STA. 16+400) ปัจจุบัน อยู่ระหว่างผู้รับจ้างเตรียมการก่อสร้างในงานก่อสร้างโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในส่วนที่เหลือจะดำเนินการในปีงบประมาณถัดไป ซึ่งปัจจุบันมีความก้าวหน้างานก่อสร้างสะสมทั้งโครงการร้อยละ 8.36

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน