วอนช่วย 22 นักท่องเที่ยวไทย ถูกกักตัว ที่เมียนมาเกือบเดือน เผยชีวิตลำบาก

สืบเนื่องจากกรณี เรือท่องเที่ยวโพลาริสวัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวไทย 22 คน และลูกเรือชาวเมียนมา 2 คน แล่นเรือออกไปตกปลาในทะเลจังหวัดระนอง และถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาควบคุมตัวในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจากเรือลำดังกล่าว เปิดเผว่า ยังรอกลับบ้าน โดยระบุว่าได้ประสานทางการไทยเพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว ด้านกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นายอภิวัฒน์ ชอบทำดี นักท่องเที่ยวชาวไทย อายุ 36 ปี ซึ่งถูกกักตัวอยู่ที่ประเทศเมียนมา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 22 คน อยากได้รับความช่วยเหลือจากทางการไทย หลังถูกคุมตัวในเมียนมาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว

“ตอนนี้พวกเราถูกกักตัวในสถานกักโควิดเป็นโรงเรียนเก่าๆ อยู่ลำบาก นอนบนโต๊ะเก้าอี้ ทางการไทยส่งฟูกมาให้ช่วยได้ระดับนึง ลำบากเรื่องอาหาร และห้องน้ำที่ไม่เหมาะกับคนสูงอายุ เคยประสานทางการไทยไปแล้วตั้งแต่ถูกจับใหม่ เขาบอกว่าจะช่วย มีการตั้งกลุ่มไลน์กัน แต่ถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้า ตอนนี้ผ่านมา 26 วันแล้ว อยากให้ทางการไทยช่วยเหลือ พรุ่งนี้จะถูกย้ายออกจากที่นี่ ไม่รู้ว่าจะสามารถติดต่อใครได้อีกไหม” นายอภิวัฒน์ กล่าว

“คนที่มาทริปด้วยกันมีนักธุรกิจ มีผู้รับเหมา มีพนักงานบริษัท ถือว่าได้รับผลกระทบมาก บางคนเสียงาน ขาดงานอาจจะถูกไล่ออก ไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่ อยากขอความเมตตาจากทางการไทยประสานช่วยเหลือพวกเราด้วย เพราะพวกเรายืนยันได้ว่าไม่ได้ทำผิด” นายอภิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม

นายอภิวัฒน์ เปิดเผยว่า ตนเองและเพื่อนชาวไทยรวม 22 คน พร้อมด้วยลูกเรือชาวเมียนมา 2 คน ได้ลงเรือโพลาริสวัน ที่ท่าเรือในจังหวัดระนอง โดยตั้งใจจะแล่นเรือไปตกปลาใกล้หมู่เกาะสุรินทร์ เริ่มออกเดินทางจากฝั่งในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 และถึงจุดพักจอดเรือเพื่อตกปลาในช่วงเวลาประมาณ 17.00 ได้ปลาจำนวนหนึ่ง

ในเวลาประมาณ 18.00 น. เรือได้แล่นต่อไปในแนวน้ำลึกห่างจากฝั่งประมาณ 130 ไมล์ทะเล พบปัญหาขัดข้องที่เครื่องปั่นไฟของเรือ กัปตันพยายามแก้ไขจนสามารถกลับมาแล่นได้อีกครั้งในช่วงเช้ามืดวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 แต่กัปตันเรือแจ้งว่า ต้องกลับเข้าฝั่งเพื่อซ่อมเรือ จึงตัดสินใจแล่นเรือกลับฝั่ง

ระหว่างทางพบเรือรบ 567 ของเมียนมา แล่นเข้ามาใกล้ และแจ้งให้หยุดเพื่อตรวจเอกสาร หลังจากการตรวจ ไม่พบยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงอุปกรณ์ตกปลาเพื่อการกีฬา ไม่พบอุปกรณ์ตกปลาเชิงพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม เรือรบ 567 ของเมียนมาได้ควบคุมเรือ โดยแจ้งกัปตันว่า ไม่ใช่การจับกุม แต่ต้องการรักษาความปลอดภัย จึงให้โพลาริสวันแล่นตามไปยังฐานทัพบนเกาะย่านเชือก ของเมียนมา เรือถึงเกาะย่านเชือก ในเวลา 03.00 น. ของวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 และนักท่องเที่ยวทั้งหมด รวมถึงลูกเรือถูกคุมตัวอยู่ที่เกาะย่านเชือกเป็นเวลา 6 วัน ก่อนที่เรือโพลาริสวันจะถูกนำมายังเกาะสอง

เจ้าหน้าที่เมียนมาแจ้งว่า คนทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องกักตัวเฝ้าระวังโควิด-19 เป็นเวลา 21 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันศุกร์นี้ และอาจจะถูกส่งตัวต่อไปยังเรือนจำ หรือสถานีตำรวจ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหมดยังไม่ทราบแน่ชัด

“ตอนเจ้าหน้าที่เมียนมาขึ้นมาบนเรือ พวกผมยืนยันไปแล้วว่า ให้ตรวจค้น และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ไม่มีการขัดขืนใดๆ ไม่ได้มีการตกปลา ไม่มีตาข่ายดักปลาเชิงพาณิชย์ พวกผมมีหลักฐานว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม บอกว่า ต้องประสานไปที่เนปิดอว์ อ้างว่าจะดำเนินคดี ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะถูกพาไปที่ไหน หรือจะติดต่อใครได้ไหม อยากให้ทางการไทยช่วย” นายอภิวัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่เมียนมาเพื่อจัดส่งของใช้จำเป็น และอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ไปให้ทั้ง 24 คน รวมทั้งประสานทำความเข้าใจกับญาติแล้ว

ขณะที่ นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวแก่สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ว่า ได้ประสานทางการเมียนมาให้ย้ายลูกเรือทั้งหมดไปพักในโรงแรมเพื่อความสะดวกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คำร้องขอดังกล่าวไม่เป็นผล

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่​ 5 ซึ่งประสานงานช่วยเหลือเรื่องนี้ในเบื้องต้น เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางการไทยพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่

“ตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับ เราได้ดำเนินการในฐานะที่ TBC(คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา) ประสานงานกันอยู่ พยายามช่วยเหลือทุกวิถีทาง เขาพยายามส่งเรื่องไปเนปิดอว์ ผมเดินทางไปที่ระนองพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่เมียนมา แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า อยู่ที่รัฐบาลกลาง ซึ่งทางการให้ส่งตัวไปยังเกาะสอง ทราบว่า ให้ดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมาย” พล.ต.ศานติ กล่าว

“ตอนนี้ ถือว่าพ้นอำนาจของเราไปแล้ว ต้องประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ให้ตั้งทนาย ไปขอประกันตัว ที่ผ่านมาเราพยายามประสานระดับท้องถิ่น แต่ระดับท้องถิ่นไม่ยอม แม่ทัพแนวชายแดนเมียนมาพยายามช่วยเหลือเต็มที่เลย เขาบอกว่าต้องดำเนินคดี ที่ผ่านมาเราเลยได้แต่ส่งของจำเป็นที่เขาต้องการไปช่วย” พล.ต.ศานติ ระบุ

ขณะเดียวกัน นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวไทยว่า “เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่”

ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมา เพื่อขอความคืบหน้าการช่วยเหลืิอนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แล้ว แต่ไม่ได้รับคำตอบจากทั้งสองหน่วยงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน