มท.จัดงานใหญ่ส่งท้ายปี “OTOP ไทย สู้ภัยโควิด-19” ภายใต้แนวคิดผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน เศรษฐกิจไทยพ้นภัยโควิด 18 – 26 ธันวาคม 2564 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งเป้ามียอดจับจ่ายใช้สอยช่วยเหลือผู้ประกอบการ OTOP ในงานไม่น้อยกว่า 750 ล้านบาท

วันที่ 14 ธ.ค.64 ที่ The Mitr-ting Room ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการแถลงข่าวงาน “OTOP ไทย สู้ภัยโควิด-19” โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางโชติกา อัครกิจโสภากุล ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม คุณภาวินี ณ สายบุรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยหน่วยงานภาคี และสื่อมวลชน ร่วมงาน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นในการที่น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงส่งเสริมให้พี่น้องคนไทยรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มศิลปาชีพ โดยนำเอาภูมิปัญญาฝีไม้ลายมือที่บรรพบุรุษถ่ายทอด ผลิตเป็นงานหัตถศิลป์ หัตถกรรมมากมาย รวมถึงเป็นพระกรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงพระราชทานผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ นับเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งรัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าว โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับกระทรวงต่าง ๆ ที่เป็นภาคีเครือข่าย และบริษัท ประชารัฐ รักสามัคคี จำกัด ช่วยกันให้พี่น้องประชาชนได้รับการพลิกฟื้นนำเอาภูมิปัญญาของตนเองมารวมกลุ่มกันเป็นกลุ่ม OTOP เพื่อผลิตงานหัตถศิลป์ หัตถกรรม เครื่องอุปโภค บริโภค เครื่องประดับ และเสื้อผ้าต่าง ๆ มาเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา เราคนไทยและคนทั่วโลกต้องประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้น การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นงานพิเศษ ซึ่งคณะกรรมการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดงาน “OTOP ไทย สู้ภัยโควิด-19” โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ OTOP ทุกกลุ่ม ทุกระดับ ทุกดาว นำสินค้ามาจำหน่ายในงาน โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกจัดระดับ 1-2 ดาว ได้มีโอกาสนำสินค้ามาจำหน่าย ดังแนวคิดการจัดงานที่ว่า “ผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน เศรษฐกิจไทยพ้นภัยโควิด” อันเป็นการประกาศจุดยืนที่สำคัญว่า “คนไทยจะไม่ยอมแพ้” และสามารถจับไม้จับมือกัน เดินฝ่าฟันปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปด้วยกัน เราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีร่วมกัน โดยการสนับสนุนของพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน ซึ่งงาน “OTOP ไทยสู้ภัยโควิด-19” เป็นการพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งที่สำคัญว่า ปัญหาของประเทศชาติ เราสามารถที่จะช่วยกันเอาชนะมันได้ด้วยความรัก ความสามัคคี ความมีระเบียบวินัย ในการมาเที่ยวชมงาน นับเป็นโอกาสอันดีที่ในช่วงการจัดงานระหว่างวันที่ 18-26 ธันวาคม 2564 เป็นช่วงที่เราจะหาของขวัญของฝากเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ โดยผู้ประกอบการจะได้นำสิ่งดี ๆ ที่เขาทุ่มเทชีวิตในการผลิตสินค้าคุณภาพจากภูมิปัญญามานำเสนอในราคายุติธรรม ราคาถูก สมน้ำสมเนื้อ พวกเราจะได้มีโอกาสช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ทุกอย่างเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคนไทยด้วยกัน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า งาน “OTOP ไทย สู้ภัยโควิด-19” ครั้งนี้ เป็นงานที่มีความพิเศษ เป็นงานที่เราจะได้ช่วยกันประกาศให้ชาวโลกได้รู้ว่า คนไทยสามารถต่อสู้และเอาชนะปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราสู้ที่จะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคของชีวิตร่วมกัน สิ่งสำคัญที่สุด คือ “กำลังใจ” จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปให้กำลังใจ ไปพูดคุยกับผู้ประกอบการ OTOP ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP 1 กลุ่ม ประกอบด้วย หลายครอบครัว ดังนั้น เพียง 1 บาท ที่ท่านอุดหนุนผู้ประกอบการ จะหมุนกลับไปเจือจุนพี่น้องผู้ประกอบการรวมถึงคนในครอบครัวอีกร้อยครอบครัว

นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดงาน “OTOP ไทย สู้ภัยโควิด-19” ในครั้งนี้ เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีการคัดสรร ตั้งแต่ระดับ 1-2 ดาว ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาโดยหน่วยงานภาคี ผลิตภัณฑ์ OTOP จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 และผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านท่องเที่ยว โดยมีสินค้า OTOP ที่คัดสรรจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย มากกว่า 2,000 ร้านค้า ให้ช้อปอย่างจุใจ ซึ่งท่านสามารถเลือกเข้าร่วมชมงานรวม 6 โซนที่น่าสนใจ ได้แก่ 1. โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2. โซนนิทรรศการกิจกรรมของหน่วยงานภาคี ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมการท่องเที่ยว องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด 3. โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP กว่า 2,000 บูธ 4. โซนจำหน่ายสินค้า OTOP “สินค้าราคาถูก” 5. โซนโอทอปชวนชิม 6. โซน OTOP Trader ประเทศไทย และ OTOP Trader จังหวัด : เป็นการจัดแสดงผลงานการจัดหาช่องทางการตลาดสินค้า OTOP ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และโซนไฮไลน์ภายในงานที่ไม่อยากให้ทุกท่านพลาด ได้แก่ โซนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีและผลิตภัณฑ์ในหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี โดยจะเป็นการจัดแสดงความสำเร็จของชุมชนวัตวิถีและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถีจาก 20 หมู่บ้าน โซน ศิลปิน OTOP จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTO ที่อนุรักษ์ และสืบทอดไว้ซึ่งภูมิปัญญาของคนไทยจากรุ่นสู่รุ่น ถ่ายทอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า โซนผ้าถิ่นไทย ที่จัดแสดงผ้าที่มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด แต่มีดีไซส์ที่ทันสมัยเหมาะกับทุกรุ่น ทุกวัย โซนของขวัญของฝาก สำหรับท่านที่กำลังมองหาของขวัญ ของฝากให้กับคนที่รักอย่าลืมแวะมาโซนนี้ เนื่องจากมีกระเช้าผลิตภัณฑ์ OTOP ให้เลือกซื้อมากกว่า 1,000 รูปแบบ และกิจกรรมส่งเสริมการขายภายในงานอีกมากมาย อาทิ การจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องที่มีชื่อเสียง การจับสลากรางวัลชิงโชค เพียงท่านซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท จะได้รับคูปองชิงโชค 1 ใบ เพื่อร่วมลุ้น Gift Voucher วันละ 20 รางวัน มูลค่ารางวัลละ 4,000 บาท และในวันสุดท้ายของการจัดงานร่วมลุ้นรับทองคำ จำนวน 29 รางวัล มูลค่ากว่า 800,000 บาท โดยตั้งเป้าจะสามารถสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการได้ไม่น้อยกว่า 750 ล้านบาท หรือวันละ 80 ล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้กับผู้ประกอบการ OTOP ในชุมชนทั่วประเทศ

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดงานครั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชนมีความตระหนักเป็นอย่างยิ่งสำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด – 19 โดยทุกหน่วยงานที่ร่วมจัดงาน ทั้งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมจำหน่ายสินค้าทุกราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานทุกคน ต้องผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็มและต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมงก่อนการเข้าร่วมจัดงาน และสำหรับพี่น้องประชาชนผู้ร่วมชมงานต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 – 2 เมตร ตลอดเวลาที่อยู่ภายในงานและบริเวณพื้นที่รอเข้างานหรือพื้นที่รอคิว ซึ่งภายในงานมีบริการเจลแอลกอฮอล์ไว้บริเวณต่าง ๆ อย่างเพียงพอ และมีการทำความสะอาดพื้นที่หรือบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกัน พร้อมทั้งมีการประชาสัมพันธ์มาตรการคำแนะนำในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้แก่ผู้เข้าร่วมงานให้ทราบเป็นระยะตลอดการจัดงาน

“เชิญชวนพี่น้องคนไทยชวนกันไปเที่ยวงาน “OTOP ไทยสู้ภัยโควิด-19” ท่านจะได้เห็นน้ำตาแห่งความปีติยินดีของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอด 2 ปีแล้ว ซึ่งของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ มีตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น ถ้าพวกเราไปช่วยกัน ทุกบาททุกสตางค์มีคุณค่าต่อชีวิตและจิตใจของพี่น้อง OTOP จึงขอเชิญชวนไปช่วยกันให้กำลังใจคนไทยด้วยกัน ในงาน “OTOP ไทยสู้ภัยโควิด-19″ ระหว่างวันที่ 18 – 26 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่ 10.00-21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1- 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ด้วยความมีระเบียบวินัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” นายสุทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน