ศกพ. สรุปสถานการณ์ PM2.5 พบ 49 จังหวัด เผชิญฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน คาดพื้นที่กทม.-ปริมณฑล สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 65 – ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ สรุปสถานการณ์ PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่
ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง หนองคาย เลย อุดรธานี นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ นครราชสีมา และบุรีรัมย์
ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 39 – 101 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 63 – 146 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 53 – 99 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ตรวจวัดได้ 34 – 76 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ตรวจวัดได้ 13 – 22 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ตรวจวัดได้ 41 – 78 มคก./ลบ.ม.
ศูนย์แบบจำลองคุณภาพอากาศ และภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ล่วงหน้า ดังนี้ พื้นที่กรุงเทพปริมณฑล 1 วันข้างหน้า คุณภาพอากาศปานกลาง และคาดการณ์ 7 วันข้างหน้า นั้น แนวโน้มของสถานการณ์ในภาพรวมช่วงวันที่ 12 – 18 เม.ย. จะมีแนวโน้มภาพรวมเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิด และไม่มีสภาพอากาศนิ่งในพื้นที่
สำหรับพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ 1 วันข้างหน้า คุณภาพอากาศโดยภาพรวมเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และคาดการณ์ 7 วันข้างหน้า แนวโน้มของสถานการณ์ในช่วงวันที่ 17- 18 เม.ย. ควรเฝ้าระวังเป็นหากจุดความร้อนมีจำนวนเยอะ อาจเกิดสถานการณ์ที่ค่าฝุ่นละอองขึ้นสูง
โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะกระทบภาคเหนือด้านตะวันออก รวมไปถึงภาคอีสาน เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเกิดสภาพอากาศนิ่ง และการยกตัวของอากาศที่ไม่ดี ในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK