กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมจัดงาน วันมาฆบูชา “ประทีปแห่งพระธรรม นำศรัทธา บูชาเพ็ญเดือน 3” หัวใจของพุทธศาสนา นำธรรมะ สู่ใจประชาชน
เมื่อย้อนไปในวัยเยาว์ ทำให้นึกเสียงเพลงวันมาฆบูชา ที่คุณครูได้สอนให้เด็กๆได้ขับร้องเพลงนี้ จนจำติดหูติดใจมาจนโต บางท่านอาจหลงลืมไปก็เปิดยูทูป เพลงมาฆบูชา ร่วมรำลึกร้องเพลงตามทำนองว่า
“มาฆะ มาฆบูชา ถือกันว่าวันเพ็ญเดือนสาม คนไทยน้ำใจงาม วันเพ็ญเดือนสามมาทำบุญกัน จาตุรงคสันนิบาต วันประหลาดมหัศจรรย์ พระอรหันต์มาประชุมกัน พันสองร้อยห้าสิบองค์ พันสองร้อยห้าสิบองค์”
บทเพลงนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งพุทธกาล ในคืนเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หลังจากวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไป 9 เดือน ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น 4 ประการ คือ 1. สาวกจำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน 2. พระสาวกเหล่านี้ล้วนเป็นพระสงฆ์ที่พระพุทธเจ้าทรงอุปสมบทให้
3. พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดนั้นเป็นพระอรหันต์ และ 4. วันนั้นเป็นวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงเดือนมาฆะ นับเป็นวันสำคัญที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมสำคัญ 3 ประการ เป็นครั้งแรก อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เรียกว่าโอวาทปาติโมกข์ นั่นคือ “การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้ผ่องใส”
โดยเรียกวันนี้ว่า วันมาฆบูชา หรืออีกชื่อหนึ่ง วันจาตุรงคสันนิบาต ซึ่งพุทธศาสนิกชนได้ยึดถือปฏิบัติตามประเพณี ด้วยการทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ทำอิสระทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา ในช่วงเช้า สดับตรับฟังพระธรรมเทศนา เจริญจิตภาวนา ในช่วงวัน และเวียนเทียนรอบโบสถ์ในเวลาเย็น
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.)กล่าวว่า ในโอกาสวันสำคัญทางศาสนาที่เวียนมาบรรจบอีกครั้ง กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาร่วมกับภาคีเครือข่ายทางศาสนา จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2566 ขึ้น
ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน นำธรรมะสู่ใจประชาชน และเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนกลาง ได้ร่วมกับวัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร และองค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา จัดงาน “ประทีปแห่งพระธรรม นำศรัทธา บูชาเพ็ญเดือน 3” ระหว่างวันที่ 4 – 6 มีนาคม 2566 ณ วัดสุทัศนเทพวราราม และลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุของส่วนพระองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร พระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มาประดิษฐาน ณ บุษบกมณฑป บริเวณลานคนเมือง และยังได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 99 องค์ ที่กรมการศาสนาได้ขอรับประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เวียนเทียน สักการบูชา
ที่สำคัญยังได้อัญเชิญพระพุทธรูปปางโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งจัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาส พระบาทสมเด็จพระพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ตามแบบพระพุทธรูปวัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม มาประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
อีกทั้งยังได้จัดให้มีการสักการะพระธาตุประจำปีเกิด 12 ปีนักษัตรจำลองจากทั่วประเทศ รวมถึงการสักการะพระพุทธรูปประจำวันเกิดทั้ง 9 ปาง พุทธศาสนิกชนจึงควรไปไหว้สักการะเพื่อเสริมบารมี เสริมสิริมงคล สักครั้งหนึ่งในชีวิต
นอกจากนี้ยังมีจัดแสดงนิทรรศการวันมาฆบูชา กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน เช่น การประกวดบรรยายธรรม การประกวดสุนทรพจน์ การประกวดอาราธนาศาสนพิธี เป็นต้น กิจกรรมจากพระธรรมวิทยากรเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี ได้แก่ มีเทศน์ มี talk เกมคุณธรรม ตอบปัญหาธรรมะ
การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย จากศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ กิจกรรม Walk rally 9 มงคล สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดสุทัศนเทพวราราม การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนกว่า 40 ร้านค้า พร้อมรับชมภาพยนตร์ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ที่หมุนเวียนมาจัดฉายในคืนวันที่ 5-6 มีนาคม ถึง 4 เรื่องด้วยกัน คือ Animation ทะลุมิติแดนพุทธภูมิ และ Mini Series คุณธรรม ตอน สู่โลกจริง ฟ้ามืด และคำสอนพ่อ รวมทั้งในวันที่ 6 มีนาคม 2566 เวลา 07.00 น. ยังได้กำหนดจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 66 รูป ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อีกด้วย
กระทรวงวัฒนธรรมขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา น้อมนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม 1765
