เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดแถลงชี้แจงถึงประเด็นที่เป็นกระแสสังคมพาดพิงบริษัทเกี่ยวกับ การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่ง BEM เป็นผู้ชนะการคัดเลือก และปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเพื่อลงนามในสัญญา

นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล รองประธานกรรมการบริหาร CK และกรรมการบริหาร BEM กล่าวว่า โครงการนี้ในแง่การก่อสร้างนับว่ายากที่สุดตั้งแต่ ช.การช่าง เคยทำมา โดยเข้าไปประมูลก่อสร้างโครงการที่ 9 หมื่นกว่าล้าน งบประมาณที่รัฐให้ถ้าพูดกันตามตรงราคาไม่ได้ดี เพราะช่วง 4 ปีหลัง ตั้งแต่ปี 61 มาจะเห็นว่าค่าก่อสร้างทุกอย่างขึ้นหมด แต่ด้วยศักยภาพ บุคลากร และเครื่องมือเครื่องจักรที่มี ทั้งยังมี ช.การช่าง เป็นแบ็กอัพใหญ่ จึงมั่นใจว่าส่วนของการก่อสร้างสามารถทำได้ ส่วนเรื่องการเดินรถก็ให้บริการได้ เป็นเรื่องที่ BEM เชี่ยวชาญ เมื่อดูจากโมเดลเหล่านี้ทำให้เชื่อมั่นว่าหลังการประมูลสามารถทำได้จริง

ส่วนกติกาในการประมูลทางบริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นปกติ ต้องรับผิดชอบทั้งในส่วนการสร้างและการเดินรถ โดยให้มีการเสนอค่าก่อสร้างที่ขอสนับสนุน การเดินรถสามารถแบ่งให้รัฐได้เท่าไหร่ เอาทั้งหมดมารวมกัน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ส่วนวิธีการสร้างก็ให้เสนอมา ซึ่ง TOR ครั้งนี้ที่ทาง รฟม. เปิดประมูลเมื่อดูแล้วไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติ คนจะยื่นประมูลต้องมีคุณสมบัติครบ TOR ก็ไม่ได้เขียนว่าต้องเป็นเอกชนรายเดียวที่มีคุณสมบัติครบ จะร่วมกันกับบริษัทอื่น หรือร่วมกับต่างชาติมาแข่งขันก็ได้

“เราเองไม่รู้รัฐกำหนดกติกาอะไร แต่เราเห็นว่ากติกาที่กำหนดไม่ได้เป็นอย่างที่คนพูดกัน เราเข้าไปตามกติกา ไปแข่งขัน สู้กันตามกติกาของการประมูล ไม่มีหรอกที่เขียนว่าเอกชนที่เข้าร่วมก่อสร้างต้องเป็นเอกชนรายเดียว มีผลงานครบสามประเภท มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขียนแบบนั้นผมเชื่อว่าคนเขียนติดคุก เพราะฉะนั้น TOR ที่กล่าวหาว่าเขียนเพื่อ BEM หรือ ช.การช่าง เป็นไปไม่ได้” นายพงษ์สฤษดิ์ กล่าว

ด้านข้อเสนอต่อภาครัฐ BEM เสนอค่าก่อสร้างจากภาครัฐในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจำนวน 91,500 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ 91,983 ล้านบาท ทั้งที่ราคาค่าก่อสร้างในปัจจุบันสูงขึ้นอย่างมากจากการปรับตัวขึ้นของน้ำมันเชื้อเพลิง เหล็ก ค่าแรง และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังแบ่งเงินตอบแทนให้ภาครัฐ 10,000 ล้านบาท

สำหรับประเด็นที่มีเอกชนบางรายกล่าวอ้างว่า ทำโครงการสายสีส้มได้ในราคาถูก สามารถขอสนับสนุนต่ำกว่า BEM โดยขอแค่เพียง 9,000 ล้านบาท นายพงษ์สฤษดิ์ อธิบายว่า ธุรกิจรถไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นธุรกิจที่ไม่ได้แปลกใหม่ มีการทำและพิสูจน์มาหลายครั้ง เริ่มแรกสายสีเขียว ที่เอกชนลงทุนทั้งหมด ผลลัพธ์คือขาดทุน จนเอกชนต้องมาฟื้นฟูแก้ปัญหา ถึงจะดีขึ้นอย่างทุกวันนี้ ทำให้รัฐบาลรู้ว่าหากเอกชนลงทุนทั้งหมดนั้นไปไม่รอด ต่อมาสายสีน้ำเงินที่พัฒนาขึ้น รัฐบาลลงทุนค่าก่อสร้างกว่าแสนล้านบาท สายสีเหลืองสีชมพูรัฐก็ต้องสนับสนุนค่าก่อสร้างสายละประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และล่าสุดคือรถไฟฟ้า 3 สนามบิน รัฐก็ต้องสนับสนุนค่าก่อสร้างประมาณ 1.2 แสนล้านบาท เป็นประเด็นที่สังคมต้องพิจารณาว่าเป็นไปได้และมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ที่ “สายสีส้มจะไม่ต้องได้รับการสนับสนุน” หรือสามารถแบ่งผลประโยชน์ให้รัฐบาลได้เป็นแสนแสนล้าน ทั้งที่การประเมินผู้โดยสารน้อยกว่าสายอื่นๆ โดยพิสูจน์แล้วจาก 5 สายที่ผ่านมาว่าไม่รอดแน่นอนหากขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล หรือขอสนับสนุนแค่ 9 พันล้าน ทั้งที่ค่าก่อสร้างมีมูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท ถ้าเป็นเช่นนั้น ต้องมีคำถามตามมาว่าทำได้อย่างไร หรือหากทำได้ก็แสดงว่าสายอื่นทุกสายที่ทำกันมา รัฐบาลศึกษามาผิดหมด จึงขอให้สังคมเข้าใจด้วยว่าการที่จะอยู่รอด คือ รัฐบาลต้องสนับสนุนค่าก่อสร้าง

“ค่าก่อสร้างเราชี้แจงได้ เหล็ก น้ำมันขึ้นขนาดนี้ ถ้าค่าก่อสร้างใครทำ 9 พันล้านได้มาเสนอให้ ช.การช่าง หรือถ้าใครบอกว่าทำได้ แต่ในอนาคตจะแบ่งให้รัฐเป็นแสนแสนล้าน ก็อยากจะถามว่าแบ่งยังไง เราเชื่อมั่นตัวเรา เราเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้รัฐ ทั้งในแง่ของการก่อสร้าง การเดินรถ ทุกโครงการที่ ช.การช่าง ทำให้รัฐบาล ไม่เคยโดนปรับ ล่าช้า เปิดทุกอย่างทันเวลา ตรงตามเป้าหมาย ก่อนแผนงานทุกโครงการ วันนี้สิ่งที่อยากจะบอกคือให้ข้อมูลว่า หนึ่ง รัฐกำหนดกติกาในการเข้าประมูล เราดูแล้วเชื่อมั่นว่าทำถูกต้อง การแข่งขันเปิดกว้างและเราเข้าไปตามกติกา แข่งขันอย่างเต็มที่ ผลคือเราชนะ การชนะของเราสามารถเสนอผลประโยชน์ให้รัฐเพิ่มเติมในเรื่องค่าโดยสารและค่าบำรุงรักษาได้ สอง ข้อมูลที่บอกว่า TOR นี้ทำมาเพื่อเรานั้นไม่ใช่เลย ทั้งหมดมีการแข่งขันตามกติกาและเราสามารถอธิบายได้” กรรมการบริหาร BEM กล่าว

นายพงษ์สฤษดิ์ กล่าวช่วงท้ายว่า บริษัทฯ ทำดีที่สุดแล้ว จากนี้ไปต้องเคารพกติกาของทางรัฐบาล การอนุมัติเมื่อไหร่ อย่างไร ไม่มีปัญหา ทาง BEM ไม่กังวล ถ้ารัฐบาลพร้อมก็สามารถสร้างได้และที่สำคัญคือความเชื่อมั่นว่าทำได้จริง สร้างเสร็จจริง คุณภาพดีจริง ผลงานในอดีตพิสูจน์ได้ ทั้งนี้ BEM เคารพในความเห็นของทุกฝ่าย และไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการให้ข่าวพาดพิงเพราะไม่ได้เป็นเรื่องจริง ส่วนหากการพาดพิงถึงบริษัททำให้บริษัทเกิดความเสียหาย บริษัทก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และ BEM มั่นใจว่าข้อเสนอของ BEM เป็นประโยชน์ต่อรัฐและประชาชน มีความเหมาะสมและทำได้จริง และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงได้ เพราะ รฟม.ทำโครงการรถไฟฟ้ามาแล้วหลายสาย สายสีส้มก็ไม่ได้แตกต่างจากสายสีอื่นๆ และรัฐบาลก็คงจะเร่งรัดหาข้อสรุปเพื่อให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเดินหน้าเปิดให้บริการได้ตามแผน เพราะปัจจุบันล่าช้ามากว่า 3 ปีแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาให้ข่าวเรื่องสายสีส้ม มีพาดพิงถึงรฟม. รวมถึง BEM จะดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ นายพงษ์สฤษดิ์ ระบุว่า ในส่วนรฟม.คงตอบแทนไม่ได้ แต่ในส่วนของเรา เราพร้อมชี้แจงอธิบายข้อเท็จจริงไปต่อสังคม ที่ผ่านมา ช.การช่าง หรือ BEM โดนกล่าวหามาเยอะ ก็พร้อมชี้แจงกันไปด้วยหลักการ แต่ถ้ากล่าวหาเกินไป จุดหนึ่งก็ต้องใช้สิทธิ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน