พล.ท.มนัส เพื่อนร่วมรุ่น ทักษิณ เปิดตัวชิงเก้าอี้ สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารเจษฎาเทคนิคมิวเซียม ร่วมอวยพร เชื่อมั่นนำความรู้ความสามารถ ทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง

วันที่ 25 มี.ค. พล.ท.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (สมัยนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) เปิดเผยว่า ตนเตรียมลงชิงเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่ง สว. ชุดปัจจุบัน กำลังจะหมดวาระลงในวันที่ 11 พ.ค. นี้ แต่จะยังรักษาการไปอีก 2 เดือน จนกว่าจะมีการสรรหา สว.ชุดใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่ง

กระบวนการคัดเลือก สว. ชุดใหม่จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในอีกไม่เกิน 3 เดือนนับจากนี้ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 60 โดย สว.ชุดใหม่จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน ไม่เหมือนกับการเลือกตั้ง สส.ที่เราคุ้นเคยกัน

แต่มาจากกระบวนการที่หรือระบบเลือกกันเองของแต่ละกลุ่มอาชีพและเลือกแบบไต่ระดับจากระดับอำเภอ สู่ระดับจังหวัด และระดับประเทศ รวม 20 กลุ่มอาชีพ กลุ่มอาชีพละ 10 คน รวม สว. 200 คน และยังให้มีการเลือกไขว้กลุ่มในแต่ละระดับอีกด้วย

พล.ท.มนัส กล่าวว่า ตนเองได้ปวรณาตนที่จะทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง แผ่นดินเกิด รักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน โดยขอประกาศตนลงสมัคร สว. ในกลุ่มข้าราชการด้านความมั่นคง ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

ตามที่ทราบกันดีว่า สว. ไม่มีหน้าที่เลือกหรือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่จะมีอำนาจหน้าที่เรื่องการจัดทำประชามติพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ การลงคะแนนเสียงร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) การพิจารณาออกกฎหมาย การคัดเลือกองค์กรอิสระต่างๆ เช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และการตรวจสอบการปฏิบัติงานของรัฐบาล

ตนมีความมั่นใจว่าตนเองมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ กกต.กำหนด ประกอบกับประสบการณ์การทำงานด้านการทหารและการเมืองมาตลอดชีวิต จึงมีความพร้อมที่จะลงสมัคร สว. ทั้งนี้ตนเองหวังว่าจะได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับประเทศชาติไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมในแง่มุมของการเมืองการปกครอง อาทิ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์ ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าผู้ชนะการเลือกตั้งที่มาจากเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ แต่ไม่ได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เป็นต้น หากตนมีโอกาสทำหน้าที่ตรงนี้ ตนจะทำให้รัฐธรรมนูญที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองและก๊วนตัวตึงเตรียมทหาร รุ่น 10 รุ่น (รุ่นนายกทักษิณ ชินวัตร) ขอเป็นกำลังใจให้ พล.ท.มนัส หรือเสธหยอย ของพวกเราได้รับตำแหน่ง สว.อย่างที่ตั้งใจไว้ นอกจากท่านจะผ่านการทำงานทางด้านการทหารแล้ว ท่านยังทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง มีพื้นฐานมาจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมาถึง 2 พรรค แต่มาครั้งนี้ท่านได้เปลี่ยนบทบาทเพื่อมาทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งต้องฝ่าด่านอรหันต์อีกหลายด่าน พวกเราจึงขอเป็นกำลังใจและขอให้ท่านได้ทำงานเพื่อรับใช้ชาติดั่งที่ตั้งใจไว้ทุกประการ

ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ กรรมการบริหารมูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม กล่าวว่า หลังจากที่ พล.ท.มนัส ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลในวันเดียวกัน ตอนนี้ท่านได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลแล้ว และได้มาเป็นคณะที่ปรึกษามูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียมกลายๆ

เมื่อทราบข่าวว่า ท่าน พล.ท.มนัส มีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะลงสมัครเป็น สว. ผมจึงขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ พล.ท.มนัส นับถือ ได้โปรดอำนวยอวยชัย ในสิ่งที่ท่านคิดในสิ่งที่ท่านหวังอันเป็นกุศลกรรม ขอให้สมความมุ่งมาดปรารถนา อาทิ ความปรารถนาที่จะทำงานรับใช้บ้านเมือง ขอให้ท่านได้รับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา และขอให้ท่านนำความรู้ความสามารถมาทำงานรับใช้ชาติบ้านเมืองในฐานะ สว. และฝ่าฟันอุปสรรคจนอยู่ครบเทอมครบวาระ

ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด พล.ท.มนัส เปาริก ท่านมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติจากหัวใจ หาก พล.ท.มนัส ได้มีโอกาสทำหน้าที่ สว. ตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้ ก็จะทำให้สถาบันหลักคงอยู่วัฒนาสถาพรคู่กับประเทศของเราและเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติสืบต่อไปอีกนานเท่านาน…ผมขอให้ท่านโชคดีและประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจ

“พล.ท.มนัส มีความเสียสละเพื่อส่วนรวมและทำงานหนักเพื่อรับใช้บ้านเมืองมาโดยตลอด ผมขอเอาเกียรติเป็นประกัน หากเราได้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ชื่อ พล.ท.มนัส เปาริก มาทำงาน รับรองว่าท่านจะติดใจและไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน” ดร.ภาคภูมิ กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน