ช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงกันยายนของทุกปีจะเป็นช่วงที่ผลผลิตลำไยจาก 8 จังหวัดภาคเหนือออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ชาวสวนลำไยภาคเหนือต้องเจอปัญหาขายผลผลิตไม่ได้ราคา และสำหรับปีนี้คาดว่าเฉพาะช่วง 4 เดือนนี้จะมีลำไยภาคเหนือจะออกผลผลิตรวมกันกว่า 6 แสนตัน หรือ คิดเป็นเกือบครึ่งของผลผลิตลำไยทั้งประเทศของปี 2567 ที่กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะอยู่ที่ 1,438,137 ตัน

แต่สำหรับทิศทางราคาลำไยปีนี้ พบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากที่หน่วยงานหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันขบคิดและหาทางออกล่วงหน้า เพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านราคาให้กับเกษตรกรชาวสวนลำไย จนเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม ดังที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวในการลงพื้นที่เพื่อติดตามการรับซื้อลำไยช่อสด และพบปะเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ณ โรงงานลำไยของบริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ว่า ปีนี้ราคาลำไยสูง เกษตรกรพอใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ราคาขึ้นลงไปตามธรรมชาติ ปัจจัยที่ทำให้ลำไยราคาขึ้นสูง ปัจจัยแรกเพราะผู้ผลิต เกษตรกรทุ่มเทเอาใจใส่ในการปลูก ทำลำไยคุณภาพ ปัจจัยที่สองภาครัฐช่วยกันบริหารจัดการหาตลาดให้กับเกษตรกร และคนกลางก็ช่วยกันรับซื้ออย่างครบวงจร

รองนายกฯ และคณะ เยี่ยมชมโรงงานลำไยส่งออก

รองนายกฯ และคณะ เยี่ยมชมโรงงานลำไยส่งออก

จากความเห็นดังกล่าวของรองนายกฯ พบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องล้วนมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมสอดรับนโยบาย โดย กระทรวงพาณิชย์ มีการออก 5 มาตรการในการบริหารจัดการลำไย ปี 2567 จำนวนกว่า 91,609 ตัน ที่จะสร้างการร่วมมือทุกภาคส่วนกระจายและดูดซับผลผลิตลำไยในช่วงผลผลิตออกกระจุกตัวพร้อมกัน และก็ได้หารือกับผู้ส่งออกภาคเอกชน เพื่อขอให้เร่งรัดการส่งออกไปยังอินเดียเพิ่มขึ้นเพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก และล่าสุด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการผลผลิตลำไยคุณภาพเพื่อเร่งแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยได้หารือแนวทางการแก้ไขลำไยทั้งระบบ พร้อมประสานกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมกำกับติดตามและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับการตลาดสินค้าลำไยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ณธกฤษ เอี่ยมสกุล CEO แพลททินัม ฟรุ๊ต

ณธกฤษ เอี่ยมสกุล CEO แพลททินัม ฟรุ๊ต

ในส่วนภาคเอกชนอย่าง บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด ผู้ส่งออกลำไยช่อสดเกรดพรีเมี่ยม นอกจากรับซื้อลำไยเพื่อสนับสนุนการระบายผลผลิตแล้ว ยังได้ช่วยเพิ่มช่องทางกระจายผลผลิตลำไยไทยเพื่อส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเรื่องนี้ นายณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันลำไยไทยมีตลาดขนาดใหญ่รองรับทั้งจีน อินโดนีเซีย และล่าสุดคือ อินเดียที่ แพลททินัม ฟรุ๊ต เข้าไปทำตลาด ซึ่งช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการส่งออกลำไยทดแทนการบริโภคผลไม้ชนิดอื่นของคนอินเดีย

อย่างไรก็ตาม ปีนี้แม้ปริมาณผลผลิตลำไยของประเทศจะเพิ่มขึ้น แต่ปัญหาที่พบ คือ ผลผลิตลำไยที่ได้คุณภาพตามเกรดส่งออกยังไม่เพียงพอกับดีมานด์ของตลาด ดังนั้นถ้าสามารถทำลำไยที่เป็นคุณภาพส่งออกได้ ก็จะแก้ปัญหาราคาลำไยได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นลำไยในฤดู หรือ นอกฤดู แต่ข้อมูลจากการสำรวจก็ยังพบว่า เกษตรกรชาวสวนลำไยส่วนใหญ่ของภาคเหนือ ขาดการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การเกษตรที่เพียงพอ ผลผลิตจึงไม่ได้คุณภาพตามเกรดส่งออกเท่าที่ควร

ดังนั้น แพลททินัม ฟรุ๊ต จึงมีแนวคิดที่จะทำโครงการเพื่อช่วยเหลือด้านการสนับสนุนความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร การทำวิจัย R&D และการบริหารจัดการคุณภาพสวนที่ได้มาตรฐานให้กับเกษตรกรชาวสวนลำไยภาคเหนือ โดยแนวคิดหลักในการทำโครงการ คือ ทำอย่างไรให้ผลผลิตลำไยในสวนออกมาเป็นลูกไซส์ AA หรือ A เพราะผลผลิตที่ออกมา 1 กิโลกรัมของไซส์ AA กับ 1 กิโลกรัมของลำไยลูกเล็กเกรดล่างจะมีราคาแตกต่างกัน 3 เท่า นี่คือความต่างของรายได้ชาวสวนลำไยที่ควรจะได้ ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนตั้งแต่การพัฒนาสวน ซึ่งแต่ละสวนเมื่อเจาะเข้าไปเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติของดิน สภาพลมฟ้าอากาศ ลักษณะของลำต้น และแหล่งน้ำ ก็พบว่าแต่ละสวนอาจจะใช้วิธีการบำรุงสวนไม่เหมือนกัน

สำหรับ กระบวนการตามโมเดลที่แพลททินัม ฟรุ๊ต นำมาใช้ คือ ส่งทีมงาน R&D เข้าไปสำรวจสวน และให้คำแนะนำในการปรับปรุง หลังจากนั้นจะมีการพาเกษตรกรชาวสวนที่ร่วมโครงการไปดูงานตัวอย่างสวนลำไยที่จังหวัดจันทบุรีซึ่งสามารถปลูกได้ผลผลิตคุณภาพส่งออก โดยเกษตรกรที่เข้าโครงการจะต้องมีการแบ่งพื้นที่ 5 ไร่มาทำแปลงทดลองเพาะปลูกตามโปรแกรมที่แพลททินัม ฟรุ๊ต กำหนด

ร่วมมือกับกลุ่มชาวสวนลำไย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

ร่วมมือกับกลุ่มชาวสวนลำไย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

“แพลททินัม ฟรุ๊ต เริ่มต้นด้วยการร่วมมือกับกลุ่มชาวสวนลำไย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เกิดเป็นโครงการแรกขึ้นมาที่เรียกว่า “ลำพูนโมเดล” ที่จะพัฒนาสวนลำไยในอำเภอลี้ เพื่อทำยังไงให้ผลผลิตออกมาเป็นเกรดส่งออก ซึ่งในอดีตลำไยสดจากสวนทางลี้ส่วนใหญ่จะขายในประเทศ หรือ แปรรูปเป็นลำไยร่วง บางปีราคาที่ได้ทำให้ชาวสวนขาดทุน รายได้ก็ไม่พอที่จะกลับไปพัฒนาสวน เพราะฉะนั้นเราเลยมาสนับสนุนเพราะอยากทำให้ลำไยของที่นี่เกิดคุณภาพที่ดีขึ้น โดยปีนี้ถือเป็นปีแรกที่มาร่วมมือกันพัฒนา ซึ่งผลที่ออกมาหลังได้มีการติดตามผลพบว่าคุณภาพลำไยของสวนที่ร่วมโครงการดีกว่าปีที่แล้ว 20% ปีนี้ขายได้ราคาสูงขึ้น รายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า”

ณธกฤษ ขยายความเพิ่มเติมว่า เมื่อเห็นผลดังนี้ ทาง แพลททินัม ฟรุ๊ต ก็ได้ทำโครงการเพิ่มเติม โดยขยายความร่วมมือกับชาวสวนลำไย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยในอนาคตก็อยากผลักดันโครงการดีๆ อย่างนี้ให้เกิดบนพื้นที่ภาคเหนือทุกพื้นที่ เพราะแพลททินัม ฟรุ๊ต มีทีม R&D ที่พร้อมเข้าไปให้คำแนะนำในการพัฒนาสวนลำไย โดยสวนหลายแห่งที่บริษัทฯ เข้าไปพัฒนาแล้ว ทำให้ราคาลำไยโดยเฉลี่ยสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ตอนนี้ก็พยายามพัฒนาให้เป็นสวนตัวอย่าง และมีความร่วมมือจากภาครัฐ เข้ามาให้ความรู้ด้วย เพราะฉะนั้นอยากให้เกษตรกรใส่ใจ ถึงเวลาให้ปุ๋ยต้องให้ ถึงเวลารดน้ำก็ต้องรด และดูแลสวน ทำให้เป็นอุตสาหกรรมเกษตร เพราะต้นไม้เหมือนเครื่องจักร ต้องมีการดูแล บำรุงรักษาให้สม่ำเสมอเพื่อทำให้ผลผลิตออกมาดี

พร้อมทิ้งท้ายว่าการจะแก้ปัญหาราคาลำไยอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องเร่งพัฒนา “คุณภาพ” ของผลผลิตและตลาด ซึ่งต้องพึ่งพาความร่วมมือ 3 ภาคส่วน คือ ภาครัฐ – ภาคเอกชน – เกษตรกร

“ภาครัฐต้องช่วยให้คำแนะนำการพัฒนาคุณภาพลำไยให้กับเกษตรกร เพิ่มช่องทางระบายสินค้าในประเทศ ออกมาตรการช่วยสนับสนุนด้านต่างๆ ส่วน ภาคเอกชนต้องมองหาตลาดคุณภาพมารองรับ และรับซื้อในราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม ขณะที่เกษตรกรก็ต้องมุ่งพัฒนาผลผลิตของตนให้ได้คุณภาพตามที่ตลาดปลายทางต้องการ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน