พาณิชย์ ลุยสางปัญหานอมินี เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายเข้ม สร้างความเป็นธรรมผู้ประกอบการไทย เตรียมเรียกประชุมใหญ่ 9 ธ.ค.นี้ เร่งออกมาตรการปราบปราม
วันที่ 7 ธ.ค. 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ห่วงใยในปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ในประเทศไทย
โดยส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมทางออนไลน์ หลอกลวงภาคธุรกิจและประชาชน ได้แต่งตั้งให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วน ในการป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
ซึ่งตนได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ขึ้นมา 2 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) และคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทย และแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ โดยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยในวันที่ 9 ธ.ค. จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ครั้งที่ 2/2567 เพื่อเร่งออกมาตรการที่จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ล่าสุด 2 หน่วยงาน คือ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 46 จุดทั่วประเทศ เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนิติบุคคล 442 บริษัท ทุนจดทะเบียนรวม 1,189 ล้านบาท ความเสียหายรวมกว่า 3,600 ล้านบาท
โดยผู้กระทำความผิดได้ร่วมกันจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่ออำพรางการประกอบธุรกิจต่างๆ อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ธุรกิจนำเที่ยว โกดัง/คลังสินค้า ร้านรับแลกเงินตราต่างประเทศ/เงินดิจิทัล และถือครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย และหลายนิติบุคคลไม่มีการดำเนินกิจการอยู่จริง และมีการจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อเปิดบัญชีม้านิติบุคคล รับโอนเงินจากแก๊งมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ และการฟอกเงิน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ CIB ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee)
เชื่อมต่อระบบข้อมูลนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลางของตำรวจสอบสวนกลาง (Big Data) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล เพื่อมุ่งปราบปรามปัญหา ‘นอมินี’ และ ‘บัญชีม้านิติบุคคล’ ให้หมดสิ้นไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการปฏิบัติการข้างต้นเป็นผลมาจากการลงนามฯ และร่วมกันดำเนินการจนเห็นผลเป็นรูปธรรม
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพิ่มความเข้มงวดด้านการจดทะเบียนธุรกิจอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลที่อาจจะเกิดขึ้น และปิดโอกาสไม่ให้มิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปใช้หลอกลวงประชาชน
รวมถึงติดตามตรวจสอบนิติบุคคลที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงในการเป็นนอมินี และร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้อย่างทันท่วงที ลดปัญหาทางสังคม และลดการทำลายเศรษฐกิจในประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม