“รมว.นฤมล” หนุน ตั้งศูนย์ C4IR ที่ไทย เปิดโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ รับมือกับสภาพภูมิอากาศ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ยกระดับภาคการเกษตรไทย
วันที่ 24 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมประชุม Multilateral Meeting: Centre for the Fourth Industrial Revolution (C4IR) ในประเทศไทย ร่วมด้วย รมว.ต่างประเทศ CEO ภาคเอกชนไทย และผู้แทนของ World Economic Forum
โดยมีการหารือถึงแนวทางในการจัดตั้งศูนย์ฯ ในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการปฏิรูประบบอาหารและภาคการเกษตร เพื่อรับมือและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ขับเคลื่อนการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้
โดย ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ C4IR เพราะถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้ภาคเกษตรมีภูมิคุ้มกัน ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงอาหาร อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ฯ ต้องอาศัยความร่วมมือของภาคเอกชนไทย และหารือในกระบวนการภายในประเทศต่อไป
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ร่วมมือและได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการจากองค์การระหว่างประเทศต่างๆ มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น GIZ FAO และ ADB ในเรื่องการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้เกษตรกรไทยเกิดภูมิคุ้มกัน สามารถทำการเกษตรท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ได้
ซึ่งระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตรจากองค์การระหว่างประเทศ เช่น โครงการการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตร เพื่อเพิ่มความยั่งยืนและการฟื้นตัวของพื้นที่สูง
โดยได้รับงบประมาณกองทุนเพื่อการลดความยากจนของรัฐบาลญี่ปุ่น ดำเนินการโดยธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งมี จ.น่าน เป็นพื้นที่เป้าหมาย เพราะเป็นพื้นที่เปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเผชิญปัญหาการชะล้างพังทลายของดินและการขาดแคลนน้ำ
“การจัดตั้งศูนย์ C4IR ที่ประเทศไทย จะเป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้หน่วยงานของไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติ และบทเรียนที่ผ่านมาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตร รวมถึงการพัฒนาภาคการเกษตรสู่ความยั่งยืน ร่วมกับเครือข่าย C4IR ของประเทศอื่น
แน่นอนว่า ภาคการเกษตรเป็นภาคที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้น การพัฒนาภาคเกษตรไปสู่ความยั่งยืน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและยกระดับภาคการเกษตรไทย” ศ.ดร.นฤมล กล่าว