ปาฐกถาธรรม ของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ กล่าวถึงอานิสงส์ของการบวชไว้เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2527 ไว้ว่า

“ได้ยกฐานะจากผู้นับถือพระรัตนตรัย ขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย แม้ฐานะเดิมมาจากสามัญชน แต่เมื่อบวชแล้วจะได้รับการเคารพนับถือ เหมือนผู้ที่บวชมาจากชนชั้นสูง สามารถรักษาศีลได้บริสุทธิ์กว่าฆราวาส มีโอกาสทำสมาธิได้ดีกว่าและก้าวหน้ากว่าฆราวาส ได้บรรลุฌาน อภิญญา มรรคผล นิพพาน เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศให้กับญาติโยม เป็นต้นบุญต้นแบบให้กับอนุชนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตาม เป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพโลกอย่างแท้จริง”

“ดังนั้นครั้งหนึ่งในชีวิตที่คิดอยากทำความดี เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา ทดแทนคุณแผ่นดิน ทดแทนคุณพระพุทธศาสนา และถวายเป็นพุทธบูชาให้เกิดผลคุ้มค่ามากที่สุดกับการได้เกิดเป็นชาย การบวชพระ คือคำตอบที่ดีที่สุด”

นอกจากนี้ บุญใหญ่จากการบวชพระนั้น ยังมีอานิสงส์มากมาย โดยในคัมภีร์ได้บันทึกเอาไว้ว่า “บุคคลใดมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้อนุญาตให้บุตรบวช ถ้าบวชเป็นสามเณรได้รับอานิสงส์ 8 กัป ถ้าบวชเป็นพระได้รับอานิสงส์ 16 กัป ส่วนบุคคลใดมีจิตเลื่อมใสแบบญาณสัมปยุตผุดขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครชักชวน ถ้าบวชเป็นสามเณรได้รับอานิสงส์ 32 กัป ถ้าบวชเป็น พระได้รับอานิสงส์ 64 กัป”

ระยะเวลา 1 กัปนั้น ท่านอุปมาว่า ภูเขาหิน แท่งทึบ หนา 1 โยชน์ กว้าง 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ เมื่อครบ 100 ปี มีผู้เอาผ้าทิพย์สีขาวอ่อนนุ่มมาลูบภูเขานี้สักหนึ่งครั้ง เมื่อไรที่ภูเขานี้ราบเรียบ เสมอพื้นดิน ความยาวนานนั้นนับได้ว่าเป็น 1 กัป

ด้วยอานิสงส์จากการบวชที่มีมากมายนี้ ทางวัดพิชยญาติการาม หรือวัดพิชัยญาติ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพ มหานคร จึงจัดโครงการอุปสมบทเนื่องในวันสำคัญๆ มาโดยตลอด เพื่อหวังให้ผู้บวชและญาติโยมของผู้บวชได้รับอานิสงส์แห่งการบวช เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ทั้งเพื่อธำรงไว้เพื่อพระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาหลักแห่งชาติไทย

และเดือนอันเป็นมหามงคลนี้ คือ เดือน ก.ค. ซึ่งตรงกับวัน เฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 วันที่ 28 ก.ค. และเดือนส.ค. ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 วันที่ 12 ส.ค. วัดพิชัยญาติ จึงร่วมกับกองทัพบก จัดโครงการอุปสมบทเฉลิม พระเกียรติ เนื่องในโอกาสสำคัญอันเป็นมงคลนี้ ประกอบด้วย

โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 6-20 ก.ค.2561 ผู้ที่สนใจสมัครบวชโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ โครงการบวชถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดรับสมัครถึงวันที่ 30 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้ร่วมสมัครกว่า 100 คน

ส่วนโครงการบวชถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ระหว่างวันที่ 4-18 ส.ค.2561 ซึ่งเปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 30 ก.ค.นี้

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยต้องเตรียมเอกสารในการสมัครบวช 1.รูปถ่ายหน้าตรง 1-2 นิ้ว ไม่สวมแว่น และถ่ายไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 1 รูป 2.สำเนาบัตรประชาชนของผู้สมัคร 1 ชุด 3.สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร 1 ชุด 4.ใบรับรองแพทย์ พร้อมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และตรวจเลือดหาเชื้อ HIV 1 ชุด 5.ต้องมีผู้ปกครองพร้อมสำเนาบัตรประชาชน หรือญาติมาเซ็นรับรองเอกสารในวันที่สมัคร 1 ชุด มาสมัครได้ที่วัดพิชัยญาติ

นอกจากนี้ วัดพิชัยญาติยังเปิดให้ผู้ที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์โครงการ ได้ดังนี้ 1. เจ้าภาพอัฐบริขารบวชพระ 1 รูป ทำบุญ 10,000 บาท 2.เจ้าภาพภัตตาหารเช้า ทำบุญ 3,000 บาท 3.เจ้าภาพภัตตาหารเพล ทำบุญ 5,000 บาท 4.เจ้าภาพน้ำปานะ ทำบุญ 2,000 บาท 5.เจ้าภาพผ้าไตรอาศัย ทำบุญ 1,000 บาท 6.เจ้าภาพบาตร ทำบุญ 500 บาท 7.เจ้าภาพย่าม 300 บาท

ร่วมทำบุญได้ที่วัดพิชยญาติการาม หรือวัดพิชัยญาติ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร หรือร่วมทำบุญผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์ สาขาเฉลิมนคร ชื่อบัญชี วัดพิชยญาติการามวรวิหาร โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ เลขที่บัญชี 037-255705-0

สอบถามรายละเอียด facebook : วัดพิชยญาติการามวรวิหาร โทร.0-2438-1738, 08-8565-1915, 09-3915-3995, 08-4571-9521, 06-2341-6612

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน