พระพุทธไสยาสน์วัดพระพุทธไสยาสน์ : คอลัมน์คติ-สัญลักษณ์ สถาปัตยกรรม
พระพุทธไสยาสน์วัดพระพุทธไสยาสน์ – เพชรบุรี หรือ เมืองพริบพี ในอดีต เป็นเมืองท่า ชุมชนเก่า ที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัยทวารวดี เป็นเมืองปลายเขตแดนของภาคกลางตอนใต้ที่ หัวเมืองที่ต่อจากเพชรบุรีไปนั้นเรียกว่า หัวเมืองปักษ์ใต้
ด้วยเหตุที่เป็นเมืองท่า เป็นชุมชนทางการค้าฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศ จึงมีผู้คนเคลื่อนย้ายเข้าออกตลอดเวลา ทั้งชาวมอญ ชาวจีน ชาวลาว และชาวไทพื้นถิ่นดั้งเดิม ที่ปะปนกัน เพชรบุรีจึงเป็นเมืองที่มั่งคั่งร่ำรวย มีงานสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ที่ทรงคุณค่าทางศิลปะ หรือ ช่างฝีมือชั้นยอดของประเทศยังมีช่างฝีมือ เช่น ช่างไม้ ช่างแกะ ช่างปูนที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน
พระพุทธไสยาสน์ วัดพระพุทธไสยาสน์ จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระพุทธรูปที่มีความยาวตั้งแต่พระเศียรถึงพระบาทประมาณ 43 เมตร นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ่โตองค์หนึ่งที่ไม่ปรากฏผู้สร้าง
เมื่อเปรียบเทียบกับรูปทรงพระอุโบสถซึ่งเป็นศิลปะอยุธยาตอนปลาย พระพุทธรูปองค์นี้ก็น่าเปรียบเทียบว่าอยู่ในยุคอยุธยาด้วยกัน แต่ไม่ปรากฏชื่อของผู้สร้าง ด้วยเหตุที่เมืองเพชรบุรีอยู่ชายเขตแดนของภาคกลาง จึงไม่มีการบันทึกประวัติของชุมชนมากพอที่จะรู้วัตถุประสงค์ของการสร้างศาสนสถานแห่งนี้
งานหรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่โตที่เรามักจะเชื่อกันว่าจะเป็นงานที่สร้างบุญกุศลอย่างสูงแก่ผู้สร้าง จะซ่อนเจตนารมณ์ของจิตใต้สำนึกบางประการ ก็คือการประกาศความยิ่งใหญ่ของผู้สร้าง และเพื่อชดเชย ทดแทนอกุศลกรรมที่ได้เคยกระทำไว้ใน อดีตด้วย
องค์พระพุทธรูปนอนประทับในอิริยาบถตะแคงขวา พระเศียรหันไปทางทิศตะวันตก ตั้งอยู่กลางแจ้งบนแท่นประทับที่มีระดับสูง แยกองค์วิหารที่มีผนังด้านหลังออกจากกำแพงแก้วของพระอุโบสถ ตัววิหารสร้างหลังคาคลุมองค์พระด้วยสังกะสี ในสมัยรัชกาลที่ 4 และเพิ่มเติมการปฏิสังขรณ์องค์วิหารทั้งหมดในสมัยรัชกาลที่ 5
สันนิษฐานเป็นคติ สัญลักษณ์ของปางปรินิพพาน จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเทศนาปัจฉิมเทศนา มหาปรินิพพานสูตร เช่นเดียวกับพระนอนวัดพนมยงค์ จ.พระนครศรี อยุธยา