อริยะโลกที่ 6 : พระราชศีลโสภิต วัดอภิสิทธิ์ สารคาม
อริยะโลกที่ 6 : พระราชศีลโสภิต วัดอภิสิทธิ์ สารคาม“พระราชศีลโสภิต” หรือ หลวงปู่ทา พุทธสโร เป็นอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่ง ที่มีความเชี่ยวชาญการนิพนธ์หนังสือคาถาธรรมบทบาลี-ไทย ตำนานพระปริตร รวมทั้งรอบรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเป็นอย่างดี
มีผลงานปรากฏต่อสาธารณชนวงกว้างอย่างมากมาย ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระนักปราชญ์อีกรูปหนึ่งของภาคอีสาน
มีนามเดิมว่า ทา ไชยโยชน์ เกิดเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2537 ณ บ้านใต้นางใย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม
ชีวิตในวัยเด็ก ได้ช่วยครอบครัวอย่างขยันขันแข็ง จนเมื่ออายุย่าง 15 ปี จึง ขอให้โยมบิดาบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดใต้นางใย
พ.ศ.2458 เมื่ออายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดใต้นางใย โดยมีพระครูโยคีอุทัยทิศเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “พุทฺธสโร”
Advertisement
ด้วยความมุ่งมั่นอยากศึกษาพระธรรมวินัยอย่างลึกซึ้ง จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนปริยัติธรรม ณ สำนักเรียนวัดสระเกศฯ
พ.ศ.2465 สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2468 สอบได้นักธรรมชั้นโท พร้อมกับสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค
พ.ศ.2470 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
พ.ศ.2481 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค
ขณะกำลังศึกษาอยู่ในสำนักเรียนวัดสระเกศฯ ท่านได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นครูสอนนักธรรม-บาลีธรรม ควบคู่ไปด้วย
ต่อมา พ.ศ.2481 เดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดอภิสิทธิ์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ด้วยความที่มีความรู้สูง ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาส
พ.ศ.2484 ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามที่ พระครูสรคณาจารย์
หลวงปู่ทาได้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง พ.ศ.2494 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม
พ.ศ.2494 ได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสรญาณมุนี
พ.ศ.2507 ได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม
พ.ศ.2515 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชศีลโสภิต
นอกจากรับผิดชอบงานปกครองคณะสงฆ์ตามหน้าที่แล้ว ตลอดชีวิตของท่านไม่เคยหยุดนิ่ง ใฝ่เรียนรู้ค้นคว้าอยู่ตลอดเวลา ให้ความสนใจศึกษาอักขระโบราณ จนเกิดความชำนาญอ่านเขียนตัวอักษรขอม ลาว ไทยน้อย ได้อย่างแตกฉาน
รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรม ขนบ ธรรมเนียมประเพณีอีสาน วรรณกรรมท้องถิ่น คัมภีร์โบราณต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่สะดวกต่อการศึกษาค้นคว้า
เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดอภิสิทธิ์ ให้ความสำคัญกับการศึกษาของพระภิกษุสามเณร เนื่องจากส่วนใหญ่ล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน สำนักศาสนศึกษาวัดอภิสิทธิ์จึงมีเรียนธรรม-บาลี พระปริยัติสามัญและการศึกษาผู้ใหญ่
นอกจากนี้ ยังเป็นพระ นักพัฒนามีผลงานด้านสาธารณูปการจำนวนมาก อาทิ เป็นประธานดำเนินการก่อสร้างอุโบสถวัดอุทัยทิศ ศาลาการ เปรียญ รวมทั้งเสนาสนะอีกมากมาย ทำให้วัดอภิสิทธิ์มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว
ด้วยวัตรปฏิบัติที่เสมอต้นเสมอปลาย ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม รวมทั้งรับวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี 2514 ที่เข้มขลังของท่านเป็นจำนวนมาก
ในช่วงบั้นปลายชีวิต อาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคชรา สุดท้ายมรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2525 สิริอายุ 89 ปี พรรษา 68
เชิด ขันตี ณ พล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง