พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง คล้องเดี่ยวหลวงปู่ทวด
คอลัมน์ พระเครื่องคนดัง
พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง – “ผมยึดหลักพระพุทธศาสนามาโดยตลอด ด้วยคำสอนที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ฉะนั้นการออกปฏิบัติหน้าที่ของผมทุกครั้งจะอาราธนาพระเครื่องติดตัวทุกครั้ง เป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน ตั้งใจมุมานะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน บำบัดทุกข์-บำรุงสุขเพื่อประชาชน
บางครั้งการทำงานต้องไปไล่จับกับพวกที่ทำผิดกฎหมาย จะใช้ฝีมืออย่างเดียวคงไม่พอ ต้องได้รับกำลังใจหรือพลังใจ ให้มีสติในการเข้าจู่โจมและจับกุมคนร้าย ที่อาจจะมีการใช้อาวุธกันได้ทุกครั้งที่มีการจับกุม”
เป็นหลักความเชื่อของ “พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง” รอง ผกก.สน.พญาไท หัวหน้างานสอบสวน นายตำรวจที่มีความรู้ความสามารถ ผ่านงานด้านต่างๆ มากมาย เช่น งานฝ่ายอำนวยการ งานสืบสวนสอบสวน กระทั่งตำแหน่งปัจจุบันเป็นหัวหน้างานสอบสวน สน.พญาไท
พ.ต.ท.พนมบอกว่า “เราต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ทำทุกวันให้ดี มีสติ ให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่สร้างศัตรู ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ตอบแทนผู้มีพระคุณ ไม่ลืมพระคุณพ่อ-แม่ เพราะทุกท่านทำให้เรามีวันนี้ เชื่อในผลของกรรมดี ทำดีต้องได้ดี ไม่ต้องรอชาติหน้า ชาตินี้ก็เห็นผล และที่สำคัญต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ดี ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย”
พ.ต.ท.พนมมีพื้นเพเป็นชาว อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึมซับเรื่องการทำบุญตั้งแต่เด็ก เห็นที่บ้านตักบาตรทำบุญทุกเช้า วันพระก็จะนำดอกไม้ อาหารคาว-หวาน ไปที่วัดดอนทราย ที่ใกล้บ้าน เป็นวัดประจำบ้าน
“สมัยเด็กเห็นครอบครัวที่บ้านทำนุบำรุงวัดดอนทราย สร้างพระ สร้างเมรุ ซ่อมแซมโบสถ์ และถ้าที่วัดมีงานบุญใหญ่ก็จะไปทำโรงทานให้กับชาวบ้าน ทุกปิดเทอมตอนเด็กๆ ที่บ้านจะให้ผมบวชเณร เพื่อศึกษาธรรมะ และมาบวชอีกครั้งตอนเป็นพระ 1 พรรษา ถวายให้กับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”
สำหรับพระเครื่องติดกาย “พ.ต.ท.พนม” อยู่เป็นประจำ คือ พระหลวงปู่ทวด หลังหนังสือ ปีพ.ศ.2505 พิมพ์ใหญ่ มีตัว ท.
“พระหลวงปู่ทวด พ.ศ.2505 รุ่นนี้เป็นพระเครื่องที่พ่อมอบให้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2535 ตอนที่เข้ารับราชการตำรวจใหม่ๆ”
ทั้งนี้ รอง ผกก.สน.พญาไทยืนยันว่าเคยมีประสบการณ์เฉียดอันตรายมาหลายครั้ง แต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นด้วยพุทธคุณแห่งวัตถุมงคลให้ความคุ้มครอง จนแคล้วคลาดได้อย่างปลอดภัย
เนื่องเพราะคำสอนขององค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้าไม่เคยล้าสมัย เป็นกฎของธรรมชาติ พ.ต.ท.พนมจึงใช้หลักแบบพุทธเข้ามาบริหารงาน โดยใช้หลักพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ซึ่งถือเป็นหัวใจผู้บริหาร ธรรมนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย
“เมื่อเราเป็นคนมีเมตตาธรรมต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ย่อมให้ความรักเคารพให้ความร่วมมือในการทำงาน ส่งผลดีต่องานในหน้าที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี”
“ผมคิดอยู่เสมอว่าหากเราคล้องพระแล้วจะต้องทำแต่ความดี เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และขอให้ท่านได้คุ้มครองคนที่ดี หากมีเรื่องหนัก เรื่องร้อนอะไร ขอให้ท่านคุ้มครอง ที่เราเรียกขอกันเสมอว่าขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตัวเราและครอบครัว”
ชีวิตนายตำรวจ พ.ต.ท.พนมเชื่อในเรื่องของบาปบุญมีจริง คิดว่าเมื่อมีพระต้องทำดี เป็นสิ่งเตือนตนเตือนใจให้มีสติในการทำงาน ที่สำคัญยึดหลักทำดีต้องได้ดี
“แขวนพระแล้วทำตัวไม่ดี ประพฤติในทางที่มิชอบ ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เหมือนกับโจร ต่อให้มีพระดีมากแค่ไหนพระท่านก็ไม่คุ้มครอง ถ้าคิดจะแขวนพระก็ต้องทำตัวให้ดีอยู่ในศีลในธรรม” รอง ผกก.สน.พญาไท กล่าวทิ้งท้าย