อริยะโลกที่ 6
เมธี เมืองแก้ว
“พระราชสารโสภณ” (วิศิษฐ์ อธิปปัญโญ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดตรัง ช่วงระหว่างปี 2541-2551 และอดีตเจ้าอาวาสวัดจอมไตร (วัดเจาะ) ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง พระเถระรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม เป็นที่พึ่งทางใจชาวเมืองตรัง
มีนามเดิมว่า วิศิษฐ์ พุฒนวล เกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2473 ที่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 7 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง
จบการศึกษาระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดจอมไตร ขณะอายุ 13 ปี เข้าพิธีบรรพชาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2486 ที่วัดจอมไตร มีพระสังวรโกวิท วัดจอมไตร เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2490 สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ
กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ อุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดจอมไตร มีพระสังวรโกวิท วัดจอมไตร เป็นพระอุปัชฌาย์
ภายหลังอุปสมบท มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2498 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค จากสำนักเรียนวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง พ.ศ.2499 สอบได้วิชาครูพิเศษมูล เป็นการศึกษาพิเศษ จากสนามสอบจังหวัดพัทลุง และ พ.ศ.2517 สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนพระสังฆาธิการส่วนกลาง แผนกศึกษาอบรม รุ่น 6
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้มีความชำนาญการด้านนวกรรม อีกทั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ที่สำนักเรียนวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง พ.ศ.2506 ได้ขึ้นเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ที่สำนักเรียนวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง
พ.ศ.2510 เปิดสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม ที่วัดจอมไตร จ.ตรัง พ.ศ.2512 เป็น เจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดจอมไตร
งานด้านเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2511 เป็นพระธรรมทูตสายที่ 9 ออกอบรมประชาชนเป็นประจำ ตามโครงการพระธรรมทูต ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพระธรรมทูตจังหวัดตรัง เป็นประธานและเป็นวิทยากรอบรมพระภิกษุสามเณรนวกะในพรรษาประจำทุกปี เป็นวิทยากรบรรยายถวายความรู้แก่พระสังฆาธิการทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัดอยู่เสมอ
ขณะเดียวกัน ท่านยังเดินทางบรรยายธรรมออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) จังหวัดตรัง และสถานีวิทยุประจำถิ่น ว.ป.ถ. 17 ตรัง บรรยายธรรมทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 จังหวัดตรัง
รวมทั้งเป็นวิทยากรบรรยายธรรมภายในเรือนจำจังหวัดตรัง จัดส่งพระธรรมทูตทั่วไปและพระธรรมทูตเฉพาะกิจออกเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามสถานที่ต่างๆ ตามท้องถิ่นทุรกันดาร ตลอดถึงภายในหมู่บ้าน ประชุมวางแผนการออกปฏิบัติงานของพระธรรมทูตร่วมกับส่วนราชการ จัดยานพาหนะให้ความสะดวกแก่พระธรรมทูตในการออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พร้อมกันนี้ ยังจัดทำโครงการธรรมสัญจร โดยส่งพระธรรมกถึก ไปเทศนาตามวัดที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดาร จัดตั้งหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อ.ป.ต.) จำนวน 52 หน่วย จัดส่งพระภิกษุสามเณรที่ผ่านการอบรมครูสอนพระปริยัติธรรม ตามโครงการของกรมการศาสนา ออกไปสอนศีลธรรมจริยธรรมตามโรงเรียนต่างๆ ในเขตจังหวัดตรัง และเป็นองค์ธรรมกถึกแสดงธรรม
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2496 เป็นเลขานุการคณะกรรมการสงฆ์ จ.พัทลุง พ.ศ.2506 เป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพัทลุง พ.ศ.2512 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจอมไตร อ.นาโยง จ.ตรัง
พ.ศ.2516 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง พ.ศ.2520 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2522 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง พ.ศ.2540 เป็oเจ้าคณะจังหวัดตรัง
พ.ศ.2551 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดตรัง
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2517 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามที่พระครูศรีปัญญาภรณ์
พ.ศ.2525 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสิทธิธรรมคณี
พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสารโสภณ
เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 ท่านเข้ารับการรักษาอาการอาพาธจากโรคไส้ติ่งอักเสบ และโรคหวัด ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) หาดใหญ่
เดือนเมษายน 2550 ท่านเกิดอาการติดเชื้อ จึงต้องเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ที่โรงพยาบาลศูนย์ตรังอีกครั้ง
หลังจากนั้น ปลายปี 2550 อาการอาพาธของท่านก็เริ่มดีขึ้น คณะแพทย์จึงอนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่วัดจอมไตร
กระทั่งเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2552 มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 78 พรรษา 58
แม้วันนี้ละสังขารไปแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านยังคงปรากฏอยู่ในใจชาวเมืองตรังสืบไป