รำลึก96ปี-ชาตกาล

หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

รำลึก96ปี-ชาตกาล หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร – วันอังคารที่ 24 มี.ค.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 96 ปี ชาตกาล “พระครู ธีรพัชโรภาส” หรือ “หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร” อดีตพระเกจิดังเมืองมะขามหวาน และเป็นศิษย์สืบสายธรรมรูปสุดท้ายของ หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ หรือ พระครูวิชิตพัชราจารย์ วัดพระพุทธบาทชนแดน พระเกจิชื่อดังเมืองเพชรบูรณ์

อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลสระประดู่ เริ่มจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ทั้งเนื้อว่าน รูปหล่อเหรียญชนิดต่างๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เพื่อหาทุนสมทบก่อสร้างศาลาการเปรียญ ห้องสมุด และอุโบสถ

นามเดิมว่า ผอง อินทรผล เกิดเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2467 ที่บ้านหันน้อย ต.หนองมะเขือ อ.พล จ.ขอนแก่น

ช่วงวัยเยาว์ ศึกษาเล่าเรียนและจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียน บำรุงไทย 2 อ.พล แต่ด้วยใจที่ใฝ่ในธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปี รบเร้าให้บิดามารดาพาไปอุปสมบท ที่วัดบ้านเรือ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่นมี พระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังอุปสมบท อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเรือโดยพระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณ ได้เมตตาสอนการวิปัสสนา กัมมัฏฐาน และทำสมาธิเจริญจิตตภาวนาให้ พร้อมกันนี้ท่านยังได้ศึกษาพระปริยัติธรรมไปด้วย จนสอบได้นักธรรม ชั้นตรี-โท และสอบได้นักธรรมชั้นเอกใน ภายหลัง

ต่อมา กราบลาพระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณเพื่อออกเดินท่องธุดงค์แสวงหาความวิเวก ตามเทือกเขาชัยภูมิ ไปจนถึง จ.พิจิตร

รำลึก96ปี-ชาตกาล หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร

ทราบว่า หลวงพ่ออ้วน หรือพระครู วิชาญพัชรกิจ เจ้าอาวาสวัดสว่างเนตร ต.ดงขุย อ.ชนแดน เป็นพระเกจิที่เรืองวิทยาคม จึงเดินทางมาฝากตัวขอเป็นศิษย์ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมให้ อีกทั้งหลวงพ่อผองได้รับใช้ตอบแทนคุณ ด้วยการเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมในวัดสว่างเนตรและวัดใกล้เคียง ช่วยกิจการด้านพระพุทธศาสนา เป็นเวลา 10 พรรษา

ก่อนไปอยู่จำพรรษากับหลวงพ่อทบ ที่วัดพระพุทธบาทเขาน้อย อ.ชนแดน เพื่อศึกษาพุทธาคมและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ซึ่งหลวงพ่อทบยินดีถ่ายทอดสรรพวิชาให้

หลวงพ่อทบเน้นย้ำว่า “การจะปลุกเสกพระเครื่อง และเครื่องรางของขลังให้ศักดิ์สิทธิ์นั้น ใจจะต้องนิ่งสงบ ปราศจากกิเลส จิตจะต้องแข็งได้ฌาน จะปลุกเสกอะไรสิ่งนั้นก็จะดีไปทั้งหมด”

อุปัฏฐากหลวงพ่อทบ คอยช่วยเหลือ กิจการคณะสงฆ์ จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอชนแดน ส่วนตัวท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม จนได้รับแต่งตั้งเป็นพระใบฎีกา และเป็นพระคู่สวด

เวลาผ่านไป 10 ปี กราบลาหลวงพ่อทบออกเดินท่องธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆจนมาถึงบ้านพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี ซึ่งขณะนั้นเป็นพื้นที่ป่า เต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด

พ.ศ.2506 ร่วมกับชาวบ้าน สร้างวัดพรหมยาม จัดสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ เสนาสนะต่างๆ

แม้จะมีกุฏิที่ญาติโยมร่วมกันสร้างให้ แต่ยังคงอาศัยอยู่ในกุฏิไม้หลังเล็กที่ไม่มีสิ่งของอำนวยความสะดวกอย่างอื่น

เมื่อปี พ.ศ.2531 หลวงพ่อผองได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลสามแยก และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูธีรพัชโรภาส

วัตถุมงคลหลวงพ่อผอง ที่คณะศิษย์ ได้จัดสร้างขึ้นในวาระต่างๆ ได้รับความนิยมสูง

ล่วงเข้าปัจฉิมวัย อาพาธบ่อยครั้ง สุดท้ายมรณภาพอย่างสงบ เวลา 04.45 น. วันที่ 7 ก.ย.2555 ที่ห้องไอซียู ร.พ.เพชรบูรณ์

สิริอายุ 88 ปี พรรษา 68

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน