หลวงปู่ไดโนเสาร์ วัดภูกุ้มข้าว กาฬสินธุ์

คอลัมน์ มงคลข่าวสด

หลวงปู่ไดโนเสาร์ วัดภูกุ้มข้าว กาฬสินธุ์ พระญาณวิสาลเถร” หรือ หลวงปู่ หา สุภโร เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ พระเถราจารย์ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ที่ชาวเมืองกาฬสินธุ์ต่างเลื่อมใสศรัทธา

ปัจจุบันสิริอายุ 95 ปี พรรษา 74

มีนามเดิมว่า หา ภูบุตตะ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.2468 อายุ 95 ปี ที่บ้านนาเชือก ต.เว่อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ บิดา-มารดาชื่อ นายสอ และนางบัวลา ภูบุตตะ

ช่วงวัยเยาว์สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดบ้านนาเชือกเหนือ

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นทหารอาสา เพื่อไปร่วมรบในสงคราม และเข้ารับการฝึกซ้อมรบ แต่ปรากฏว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงก่อนในปี พ.ศ.2488

ครั้นอายุย่าง 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดสว่างนิวรณ์นาแก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยมีหลวงปู่ลือ เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดมหานิกาย

อยู่จำพรรษาที่วัดสุวรรณชัยศรี ขณะนั้นการปกครองในคณะสงฆ์ยังไม่ทั่วถึงมากนัก การบวชของคณะธรรมยุตและคณะมหานิกายยังไม่แยกจากกัน ยังคงใช้พระอุปัชฌาย์รูปเดียวกัน

ต่อมาเมื่ออายุ 22 ปี จึงญัตติเป็นธรรมยุต ที่สิมน้ำ วัดบ้านหนองโจด (ปัจจุบันเป็นที่นาชาวบ้าน) ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2490 พระครูประสิทธิ์สมณญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูปลัดอ่อน ขันติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนา จารย์ ได้รับฉายา สุภโร

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2498 เป็นเจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พ.ศ.2498 เป็นเจ้าคณะตำบลโนนศิลา พ.ศ.2502 เป็นเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์-กุฉินารายณ์-ท่าคันโท

พ.ศ.2539 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ)

พ.ศ.2548 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ)

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2505 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูวิจิตรสหัสคุณ พ.ศ.2508 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระญาณวิสาลเถร

ย้อนไปในปีพ.ศ.2510 ย้ายวัดสักกะวัน จากตำบลโนนศิลา มาอยู่พื้นที่ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นพัฒนา วัดสักกะวัน โดยการสร้างอุโบสถ วิหาร และตัดถนนรอบวัดจำนวน 5 สาย รวมทั้งก่อสร้างเมรุเผาศพ

ครั้งหนึ่งนอนหลับฝันเห็นไดโนเสาร์ตัวใหญ่คอยาวเดินอยู่บริเวณเชิงเขาภูกุ้มข้าว ครั้นตื่นขึ้นจึงให้ลูกศิษย์ไปตรวจสอบพื้นที่ ดังกล่าว ขณะนั้นฝนตกหนัก พื้นดินสูงโดนน้ำเซาะจนเห็นกระดูกชิ้นใหญ่หลายสิบชิ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

จึงสั่งให้คนเก็บกระดูกนั้นไว้และส่งข่าวไปยังนายอำเภอเพื่อตรวจสอบ

กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2537 เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีเข้ามาตรวจสอบบริเวณร่องน้ำ ข้างถนนเชิงเขาภูกุ้มข้าว ขุดพบซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ จากการตรวจสอบปรากฏว่าเป็นไดโนเสาร์พันธุ์กินพืชที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา (ภายหลังตั้งชื่อว่า อีสานโนซอรัสสิรินธรเน่)

ต่อมามีการแจ้งว่าขอขุดค้นเพิ่มเติม จึงกราบเรียนหลวงปู่หาเพื่อขออนุญาต ปัจจุบันคือ “อาคารหลุมขุดค้นไดโนเสาร์พระญาณวิสาลเถร” เพื่อเป็นอนุสรณ์

อีกทั้งยังมีการรวบรวมฟอสซิลไดโนเสาร์จากทั่วสารทิศมารวมที่วัดสักกะวัน และก่อสร้างพิพิธภัณฑ์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับสัตว์โลกล้านปี ได้รับพระราชทานนามว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร”

คณะศิษย์จึงถวายฉายานามหลวงปู่ว่า “หลวงปู่ไดโนเสาร์”

ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีพัฒนาแหล่งพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าวเป็นศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ และมีพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวิชาการที่สำคัญและมีชื่อเสียง

มีชื่อว่า “อุทยานโลกไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน