หลวงปู่ขุน อนุตตโร

พระเกจิวารินชําราบ

มงคลข่าวสด

มงคลข่าวสด หลวงปู่ขุน – “พระครูอุดมธรรมกิจ” หรือ “หลวงปู่ขุน อนุตตโร” เจ้าอาวาส วัดใหม่ทองสว่าง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัย ชื่อเสียงเป็นที่รับรู้กันทั่ว มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงามเป็นที่เลื่อมใสของผู้ได้พบเห็น จนได้รับสมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งวารินชำราบ”

ปัจจุบัน สิริอายุ 90 ปี พรรษา 70 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ และเจ้าอาวาสวัดใหม่ทองสว่าง

มีนามเดิม ขุน ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย.2473 เป็นคนบ้านดอนโด่ ต.นาคาย อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี เป็นบุตรในตระกูลผู้มีฐานะทางครอบครัวดีไม่ลำบากเดือดร้อน ปู่ย่าตายายมีที่ไร่ที่นามากมาย

ครั้งเมื่อเรียนจบชั้นบังคับประถม 4 จึงบรรพชาเมื่ออายุ 17 ปี มีอาจารย์แก้ว หลวงลุงของญาท่านสวน ฉันทโร เป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติและพระธรรมวินัย มีญาท่านสวน เป็นพระพี่เลี้ยงอยู่ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับไปบ้านจิกเทิง

ต่อมาในทุกๆ ปีจึงถือเป็นข้อวัตรปฏิบัติต่ออาจารย์ คือในฤดูเข้าพรรษาต้องไปทำสามี จิกรรม-ทำวัตรหลวงปู่ญาท่านสวนทุกปี จนกระทั่งมรณภาพ แม้ทุกวันนี้ยังแวะเวียนไปกราบสรีระอยู่

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดใหม่ทองสว่าง อ.วารินชำราบ มีพระครูกมลวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ เป็น พระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “อนุตตโร” แปลว่า ผู้ยอดเยี่ยมไม่มีใครเสมอ

หลังอุปสมบท พระครูวิรุฬสุตการ เจ้าอาวาสวัดใหม่ทองสว่าง เอ่ยปากขอจากพ่อแม่และญาติพี่น้องที่เดินทางมาด้วยกันว่า จะขอให้อยู่ประจำพรรษาที่วัดใหม่ทองสว่าง เพื่อศึกษาเรียนหนังสือและคอยเป็นพระอุปัฏฐากนับแต่นั้นมา

พระครูวิรุฬสุตการ ศิษย์ผู้น้องของพระครูวิโรจน์รัตโนบล (รอด นันตโร) มองเห็นแววจึงถ่ายทอดความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเทศนาโวหารและการปกครองให้ จนเป็นที่โดดเด่นในวงการคณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานีสมัยนั้น และได้รับแต่งตั้งเป็นพระใบฎีกา ในฐานานุกรมของเจ้าคุณพระปริยัติโกศล (ถวัลย์ อาจารสุโภ)

ครั้นเมื่อพระครูวิรุฬสุตการ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอวารินชำราบและย้ายไปอยู่วัดวารินทราราม จึงให้อยู่เป็นเจ้าอาวาสรักษาวัดสืบมาจนปัจจุบัน

เรียนวิชาหนุนดวง-ค้ำดวงจนสำเร็จ จากหลวงปู่พระครูวิรุฬสุตการ ซึ่งเป็นวิชาเอกที่สืบทอดกันมาจากสายสมเด็จลุน แห่งเมืองจำปาสัก และยังมีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ชาวัดหนองป่าพง

เมื่อครั้งที่ หลวงปู่ชา สุภัทโท มาสร้างวัดหนองป่าพง ก็นำพาญาติโยมไปร่วมปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำ จนเห็นความสงบเยือกเย็นแห่งธรรม ทำให้มุ่งมั่นปฏิบัติกัมมัฏฐานมากยิ่งขึ้น และยิ่งได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่ชาอยู่เป็นประจำด้วย ยิ่งทำให้มีความรู้ในกัมมัฏฐานมากยิ่งขึ้น

ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่วัดใหม่ทองสว่าง ด้วยความเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีพรรษาสูง ได้รับความเคารพจากพระลูกวัดทั่วไป จัดระเบียบการปกครองวัด งานศึกษาสงเคราะห์และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

ด้านการศึกษาให้การสนับสนุนโรงเรียนทุกโรงเรียนที่อยู่ในเขตปกครอง รวมทั้งได้จัดตั้งกองทุนเอาไว้ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสได้รับการศึกษา รวมทั้งพระภิกษุ-สามเณรที่ขาดแคลน

มุ่งมั่นศึกษาทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ มีปฏิภาณที่มั่นคง สงเคราะห์ญาติโยมที่เดือดร้อนมาโดยตลอด ปฏิบัติเกื้อกูลต่อพุทธศาสนิกชนที่มากราบนมัสการอย่างสม่ำเสมอกัน กอปรกับเป็นพระเกจิอาจารย์ ทำให้เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าจากสาธุชนทั้งใกล้ ไกล หลั่งไหลมากราบนมัสการ เพื่อความเป็นสิริมงคลไม่ขาดสาย

รวมทั้งยังได้รับกิจนิมนต์นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ เป็นประจำ

ด้วยความเมตตาของท่านที่คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง จนชื่อเสียงของหลวงปู่โด่งดังขจรขจาย ทำให้มีลูกศิษย์ลูกหามากมายที่เข้ามากราบฝากตัวเป็นศิษย์

จนถึงทุกวันนี้ยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยมิรู้เหน็ดเหนื่อย

เพื่อพระศาสนาสืบไป