มื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ระบุว่า

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระธรรมเจดีย์ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึก ในหิรัญบัฏว่า “พระพรหมวชิรธีรคุณ สุนทรธรรมวาที ศรีปริยัติโกศล วิมลสีลาจารนิวิฐ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” สถิต ณ วัดทองนพคุณ พระอารามหลวง กรุงเทพมหานครมีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2566 ประกาศ ณ วันที่ 28 มิ.ย.2566

นับเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองรูปแรกของพระอารามนี้

ปัจจุบัน สิริอายุ 79 ปี พรรษา 59 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ และรองเจ้าคณะ ภาค 11

มีนามเดิมว่า สมคิด บุตรทุมพันธ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 8 ต.อุ่มเม้า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด

สำเร็จการศึกษาชั้น ป.4 ที่โรงเรียนประชาบาลประจำหมู่บ้าน ต่อมาบรรพชาเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2500 มีเจ้าอธิการบุญ เจ้าอาวาสวัดศรีสะเกศ เจ้าคณะตำบลเชียงใหม่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์

ย้ายไปศึกษาที่วัดหนองขุ่น ต.ยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี มุ่งมั่นศึกษาพระ ปริยัติธรรม แผนกธรรม พ.ศ.2504 สอบได้นักธรรม ชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ








Advertisement

จากนั้นศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี พ.ศ.2507 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดหนองขุ่น เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2508 มีเจ้าอธิการหอม คุตตจิตโต เจ้าอาวาสวัดโนนรังน้อย เจ้าคณะตำบลยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการจำปา สิริปุญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาอมร เขมจิตโต วัดหนองขุ่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้นามฉายา เขมจารี แปลว่าผู้มีความประพฤติอันเกษม

ศึกษาพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม พ.ศ.2509 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค จึงย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดทองนพคุณ กรุงเทพฯ จนสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค

ขณะอยู่ที่วัดทองนพคุณ รับภาระในงานสำคัญต่างๆ เป็นอันมาก สนองงานเจ้าอาวาสในการพัฒนาวัดมาโดยลำดับ จนได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2525 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ พ.ศ.2533 เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ พ.ศ.2537 เป็นเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ พ.ศ.2541 เป็นรองเจ้าคณะภาค 11

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระกิตติสารเมธี พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติเวที

พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติมุนี พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมเจดีย์

ล่าสุดวันที่ 27 มิ.ย.2566 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมวชิรธีรคุณ

กล่าวสำหรับงานด้านการศึกษา ถือว่าเป็นงานที่พระพรหม วชิรธีรคุณ มีความถนัด มีความชำนาญ เป็นงานที่มีใจรักเป็น อย่างยิ่ง เมื่อเข้ามาอยู่ที่วัดทองนพคุณ ได้ทำหน้าที่ต่างๆ เป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบงานด้านการศึกษาในสำนักเรียนมาในทุกระดับ นับตั้งแต่เป็นครูสอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นผู้ใฝ่การศึกษาพัฒนาตน เข้าร่วมอบรมสัมมนาเพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ความสามารถของตน เช่น เข้าร่วมอบรมสัมมนาเรื่องบทบาทของพระสงฆ์ผู้นำสังคมในการอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมไทย ที่สำนักเสริมศึกษาและบริการสังคมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และที่หอสมุดแห่งชาติ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังให้ความอนุเคราะห์ทางด้านวัฒนธรรมแก่ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในการจัดงานอนุรักษ์มรดกไทยและท้องถิ่น สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล 5 ในชุมชนรอบวัด และเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค 11 เป็นวิทยากรในการเผยแพร่ความรู้ด้านการอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย

ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ดำเนินการจัดตั้งทุนและเพิ่มทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นประถม มัธยม และอุดมศึกษา ตามมติมหาเถรสมาคม นำฝากไว้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาท่าดินแดง เลขที่บัญชี 044-0-03666-6 ชื่อบัญชี “ทุนประถม มัธยม อุดมศึกษา วัดทองนพคุณ” และนำดอกผลมามอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ เรียนดี มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เป็นประจำทุกปี

ยังคงมุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ปฏิบัติศาสนกิจเป็นอเนกประการ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองสืบไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน