“ฟังธรรมศึกษาธรรมในคัมภีร์ แล้วไม่นำมาปฏิบัติ ก็เหมือนกับถือผลไม้ไว้เท่านั้น ยังไม่ได้กิน ยังไม่ได้ลิ้มรส ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร” สารธรรมมงคล หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
…• กล่าวขวัญกันว่า เบี้ยแก้ หลวงพ่อพัก (ภักตร์) จันทสุวัณโณ วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง สร้างจากตัวหอยเบี้ยบรรจุปรอท นำเบี้ยใส่พานทองเหลือง นำปรอทใส่ขวดเล็ก ตั้งอยู่อีกพานหนึ่งวางคู่กันใช้หญ้าคาแห้งทำเป็นสะพานต่อจากขวดปรอทถึงตัวเบี้ย บริกรรมคาถาให้ปรอทไหลเข้าไปอยู่ในตัวเบี้ยจนเต็มแล้วอุดด้วยชันโรงใต้ดิน แล้วปิดทับด้วยตะกรุดที่ม้วนแล้วทุบให้แบน แปะทับบนชันโรง
…• ครั้นเมื่อรวบรวมเบี้ยแก้ได้จำนวนหนึ่ง จะให้ลุงประเสริฐ มาลัยนาค เป็นผู้ถักเชือกหุ้มเบี้ยแก้ การถักเชือกนั้น จะถักเปิดด้านบนของตัวเบี้ยให้เห็นลายหอยเบี้ย ลายถักส่วนมาก ถักเป็นลายกระสอบ วนเป็นเส้นรูปไข่ตามตัวเบี้ย การถักห่วงจะถักเป็นด้านหลังสองห่วง หรือด้านบนหูเดียวก็มี บางตัวอาจจะมีที่ทำเป็นตะกรุดร้อยเชือกคาดเอวก็มี มีทั้งจุ่มรักและไม่จุ่มรักก็มี หลังจากถักเชือกเสร็จ จากนั้นจะปลุกเสกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ก่อนแจกให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา กลายเป็นที่นิยมเสาะหามาบูชาติดตัว
…• “หลวงพ่อดำ อินทสโร” วัดตาลบำรุงกิจ ต.สี่หมื่น อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พระเถราจารย์ยุคเก่าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงมากคือ เหรียญหล่อเนื้อทองเหลือง รูปหัวใจหรือรูปใบโพธิ์ จัดเป็นเหรียญหล่อพระเกจิที่เก่าแก่ที่สุดเหรียญหนึ่ง สร้างในปี พ.ศ.2459 ลักษณะเป็นเหรียญหล่อโบราณ มีหูห่วง ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปเหมือนนั่งเต็มองค์ ห่มจีวรแบบลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ มีช่อมะกอกผูกด้วยโบด้านล่าง ใต้รูปเหมือนมีตัวเลขไทย “๒๔๕๙” ระบุปีที่สร้าง ด้านหลังเป็นอักขระขอม เหรียญดังกล่าวมีคนเข้าไปขอแจกกันมาก
…• “หลวงพ่อเอีย กิตติโก” วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี พระเกจิชื่อดัง วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เหรียญรุ่นแรกคือ เหรียญเนื้อทองคำ รุ่นงานฉลองศาลาการเปรียญวัดบ้านด่าน จัดสร้างในปี พ.ศ.2519 สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในวาระฉลองศาลาการเปรียญ
…• ลักษณะเป็นทรงกลมรูปไข่ มีหูห่วง ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนครึ่งองค์ หันหน้าตรง ด้านบนมีรอยจาร ขอบด้านล่างเหรียญมีอักษรจารึกว่า “หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน” และตอกโค้ดตัวอะที่สังฆาฏิ ด้านหลังตรงกลางเป็นยันต์ ด้านบนบริเวณขอบเหรียญมีตัวอักษรจารึกคำว่า “งานฉลองศาลาการเปรียญวัดบ้านด่าน” ส่วนด้านล่างของเหรียญจารึกว่า “อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ๒๕๑๙” เป็นอีกวัตถุมงคลที่ได้รับความศรัทธาเชื่อมั่นในพุทธาคม
…• วัตถุมงคล พระสมเด็จเกศมงคลรุ่นแรก “หลวงพ่อฑูรย์ อัตตทีโป” อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เหตุที่ได้ชื่อว่า “เกศมงคล” ด้วยผสมเส้นเกศาของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม เขตคลองสาน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ลงไปด้วย
…• การจัดสร้างได้ฤกษ์กำหนด เมื่อปี พ.ศ.2484 จึงกำหนดให้มีการจัดปริมณฑลอย่างถูกต้องตามตำรา และเริ่มนำมวลสารทั้งหมด ผสมกับน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์คลุกเคล้าให้เข้ากันดี เริ่มลงมือกดพิมพ์พระ ขณะที่กดพิมพ์พระสมเด็จจะมีการบริกรรมภาวนาไปด้วย จำนวนพระที่จัดสร้าง มีจำนวนนับหมื่นองค์ ทำให้การกดพิมพ์พระ ใช้เวลายาวนานหลายปี จนกระทั่งเสร็จสิ้นเมื่อปี พ.ศ.2497 จากนั้นนำออกแจกครั้งแรก ในงานทำบุญฉลองอายุครบ 90 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2497 จำนวนหนึ่ง เพื่อแสดงมุทิตาจิต ส่วนที่เหลือนำกลับไปวัดโพธินิมิตรและเก็บไว้ ถือเป็นวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียง
…• “หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ” หรือ ‘พระอุดมประชานาถ’ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดโคกเขมา จ.นครปฐม สำหรับเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อเปิ่นที่ได้รับความนิยมกันมากคือ เหรียญหลวงพ่อเปิ่น วัดโคกเขมา พ.ศ.2509 จ.นครปฐม ลักษณะเป็นทรงเสมารูปเหมือนปั๊มตัดทีเดียว จัดสร้างโดยคณะศิษย์ เพื่อฉลองในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งเจ้าอธิการ ในปี พ.ศ.2509 เป็นเนื้อทองแดงรมดำและทองแดงผิวไฟ
…• ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนนั่งขัดสมาธิ ขอบกระหนก ด้านบนมีหู อักษรใต้ฐานเขียนว่า “พระอธิการเปิ่น” ด้านหลังเป็นยันต์อุ 23 อักขระ ทั้งนี้ เหรียญรุ่นแรก ด้านหลังแบ่งออกเป็น 2 บล็อกคือ บล็อกหลังเรียบและบล็อกขี้กลาก เหรียญรุ่นแรก ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง
…• “หลวงปู่จันทร์ เขมิโย” หรือ “พระเทพสิทธาจารย์” อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม พระเครื่องโดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรก เป็นที่เสาะแสวงหาปี พ.ศ.2512 นายวรรณดี ตั้งตรงจิตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนมขณะนั้น ขออนุญาตจัดสร้าง เหรียญรุ่น 2 ที่ระลึกในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ส่วนหนึ่งได้ถวายวัดไว้แจกเป็นที่ระลึก
…• ลักษณะเป็นรูปอาร์ม มีหู จัดสร้างเป็นจำนวน 2,512 เหรียญ เท่า พ.ศ.ที่สร้าง ด้านหน้ามีเส้นสันขอบนูนรอบเหรียญ ใต้หูห่วงมีตัวหนังสือนูนคำว่า “วัดศรีเทพนครพนม” ตรงกลางมีรูปเหมือนครึ่งองค์ ด้านล่างสุดมีตัวหนังสือนูนคำว่า “พระเทพสิทธาจารย์” ด้านหลังแบนราบ มีลายเส้นนูนเป็นรูปยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ ภายในโครงยันต์สี่เหลี่ยมไขว้กับสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด มีอักขระในช่องสี่เหลี่ยมเล็กนับได้ 25 ตัว ด้านล่างเป็น “๒๕๑๒” ปีที่สร้างเหรียญ นับวันจะหายาก
อริยะ เผดียงธรรม
[email protected]