พระอธิการสอ หรือ หลวงปู่สอ ขันติโก อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า หมู่ 10 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา มีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างแดน

เป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระเกจิเรืองวิทยาคมเข้มขลัง ผู้นำในการสร้างพระธาตุท่าอุเทน พระบาทโพนฉัน ใน สปป.ลาว และพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

มีนามเดิมว่า สอ แก้วดวงดี เกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นชาวบ้านบะหว้าโดยกำเนิด เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร 6 คน

เมื่อแรกเกิด มารดาบอกว่ามีสายรกพันคอ จะได้บวชอุทิศตนในบวรพระพุทธศาสนา นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม มารดาพาข้ามโขงไปบวชเณรที่ฝั่งลาว และไปรับใช้หลวงปู่สีทัตถ์ที่นั่น ติดตามธุดงค์ไปภูเขาควาย ร่ำเรียนวิทยาคมจนช่ำชอง

เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ขณะมีอายุ 20 ปี เมื่อ พ.ศ.2488 โดยมีหลวงปู่สีทัตถ์เป็นพระอุปัชฌาย์

ร่ำเรียนวิชาปั่นธาตุ ซึ่งหมายถึงการนั่งภาวนาสลับธาตุดิน น้ำ ลมไฟในร่างกาย เชื่อว่าจะสามารถปัดโรคภัยไข้เจ็บได้ ทั้งยังนำต้นยางนาที่ไม่มีใบ แต่ลำต้นไม่ตายมาต้มกินเป็นสมุนไพร ตามความฝันของผีบังบดมาเข้าฝัน เชื่อว่าทำให้มีอายุยืนยาว

อาพาธด้วยโรคชราภาพ เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 6 ก.ค.2562 ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 114 ปี พรรษา 94

เมื่อปี พ.ศ.2560 “เฮียเติง” ไชยวัฒน์ กุลยะ ลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธา ได้ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล เป็นงาแกะรูปเหมือนหลวงปู่สอ ขันติโก รุ่นแรก เพื่อหารายได้สร้างสมทบทุนรักษาตัวในยามอาพาธ

จัดสร้างเป็นงาช้างแกะสลัก ฐานก้นทองคำ 18 องค์ และฐานเงิน 19 องค์ โดยใช้ช่างแกะสลักจาก จ.บุรีรัมย์

ด้านหน้า มีรูปเหมือนเต็มองค์ นั่งขัดสมาธิ กว้าง 2 เซนติเมตร สูง 2.3 เซนติเมตร บริเวณฐานเป็นทองคำและเงิน สลักคำว่า หลวงปู่สอ

ด้านหลัง บริเวณส่วนฐานสลักตัวหนังสือคำว่า ขันติโก ที่ก้นฐานปิดด้วยทองคำและเงิน สลักคำว่าวัดโพธิ์ศรี มีนัมเบอร์กำกับไว้ทุกองค์ มียันต์อุณาโลมประกบขนาบข้างซ้ายขวา บรรทัดถัดลงมาสลักคำว่า จ.นครพนม

งาแกะสลักรูปเหมือนปลุกเสก 3 วาระ วาระแรกหลวงปู่สอ อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2561 วาระที่ 2 หลวงปู่ถนอม จันทวโร วัดขามเตี้ยใหญ่ อ.โพนสวรรค์ ปลุกเสกเดี่ยว วาระสุดท้ายหลวงพ่อหอม รตินธโร วัดไตรคามวาสี อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ปลุกเสกเดี่ยว เป็นงานพุทธศิลป์ที่ไม่ค่อยเห็นทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน