สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธัมมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานในพิธีสอบโครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดโดย. วัดตะโก อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ ลานองค์พระศรีศากยทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ พุทธมณฑล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
การนี้ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ร่วมในพิธี
โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์จัดขึ้นเพื่อสร้างศาสนทายาท ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงพุทธศักราชนี้ ซึ่งเป็นมหามงคลสมัยของปวงชนชาวไทย โดยวัดตะโกได้จัดเป็นกรณีพิเศษร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์ 5 ประการคือ
1.เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
2.เพื่อปฏิบัติหน้าที่อันเป็นเหตุแห่งความดำรงมั่นและสืบอายุแห่งพระพุทธศาสนาร่วมกัน
3.เพื่อส่งเสริมให้สามเณรผู้เป็นศาสนทายาททรงจำพระปาติโมกข์ เพื่อเป็นภิกษุผู้สวดปาติโมกข์แก่วัดและคณะสงฆ์เพิ่มขึ้นต่อไป
4.เพื่อให้สามเณรผู้เป็นศาสนทายาท อยู่ในฐานะที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุต่อไป ได้ทรงจำสิกขาบทอันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ตามกระบวนการอบรมตนในหลักไตรสิกขา
5.เพื่อส่งเสริมวิริยอุตสาหะของสามณรให้มีกำลังใจในการเล่าเรียนและสืบพระพุทธศาสนา
โอกาสนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีกล่าวสัมโมทนียกถา ความสำคัญตอนหนึ่งว่า ความสำคัญของโครงการนี้ทำให้เกิดมีสามเณรผู้ทรงปาติโมกข์จำนวนมาก ที่จัดเป็นผู้สืบสาน รักษา และต่อยอดหน้าที่แห่งศาสนทายาท ผู้องอาจ มีความเพียร มีสติสัมปชัญญะ มีปัญญา มีความอดทน เสียสละ และมีความจำเป็นเลิศ จึงทำให้เกิดผลที่น่าชื่นชมในหมู่พุทธบริษัททั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เป็นผู้รักษารากแก้วแห่งพุทธศาสนาด้วยหน้าที่ชีวิตของตน อาจสรุปผลการดำเนินโครงการลงเป็น 4 ประการคือ
เป็นหลักฐานทางพระประวัติศาสตร์ เป็นการประกาศความสามารถสามเณร เป็นการกระตุ้นให้เกิดการทำงานในรูปแบบต่างๆ เพื่อจะรักษา เชิดชูพระธรรมวินัย และเป็นความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
สอดคล้องต้องกันกับพุทธประสงค์ที่ทรงบัญญัติพระวินัย ก็เพื่อให้เกิดการยอมรับกันว่าดีในหมู่สงฆ์ เพื่อความผาสุก เพื่อข่มคนที่เก้อยากหน้าด้าน เพื่อให้ภิกษุผู้มีศีลอยู่ผาสุก ป้องกันมิให้เกิดโทษอาสวะในปัจจุบัน กำจัดโทษอาสวะในอนาคต ให้ผู้ที่ยังไม่เลื่อมใสได้เลื่อมใส ให้ผู้เลื่อมใสแล้วเลื่อมใสยิ่งขึ้น และเพื่ออนุเคราะห์พระวินัยให้ดำรงอยู่ต่อไป
พระพุทธองค์ตรัสวินัยกถา พรรณนาคุณแห่งพระวินัย ตรัสอานิสงส์แห่งการเรียนพระวินัย ทรงยกย่อง ผู้ทรงพระวินัย เช่น พระอุบาลีเถระเนืองๆ โดยอเนกปริยาย ฝ่ายผู้กล่าวพระวินัย พระพุทธองค์ตรัสอานิสงส์ไว้ในเรื่องจูฬสงคราม ในคัมภีร์บริวารว่า เป็นบาทฐานให้เกิดความสำรวม บรรลุธรรมตามลำดับไปจนถึงอนุปาทาปรินิพพาน ส่วนผู้ไม่ใส่ใจสิกขาบทเล็กน้อย เช่น เมื่อแสดงปาติโมกข์อยู่แล้วกลุ่มพระฉัพพัคคีย์ก่นพระวินัย ก็ปรับเป็นอาบัติปาจิตตีย์ดังที่สวดผ่านมาแล้วนั้น
พระวินัยอันเป็นรากฐานสำคัญของพระพุทธศาสนา ดังที่พระมหาเถระในคราวทำปฐมสังคายนา มีพระมหากัสสปะเถระเป็นประธาน เห็นพ้องกันว่า วินโย นาม พุทธสาสนสฺส อายุ, วินเย ฐิเต พุทธสาสนํ ฐิตํ โหติ ฯ พระวินัยจัดเป็นอายุของพระพุทธศาสนา เมื่อพระวินัยดำรงอยู่ พระพุทธศาสนาก็ดำรงอยู่ด้วย
สามเณรผู้สอบผ่านทุกรูปของโครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นอกจากเป็นผู้ดำรงพระศาสนาตามหลักการนี้ จัดเป็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติ เป็นศาสนทายาทที่ดีของพระศาสนา เป็นผู้สืบสานรักษาพระวินัยให้มั่นคง เป็นเหล่ากอแห่งสมณะสาวกสงฆ์ได้อบรมธรรมท่องจำพระวินัยต่อยอดให้อายุพระศาสนายืนนานสืบไป
ทั้งมีกุศลเจตนาเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศล และพระพรชัยมงคล สมแก่การมหามงคลสมัยศุภวาระนี้อย่างน่าอนุโมทนา และเจริญพระราชศรัทธาเป็นที่ยิ่ง