จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ตอนบนของประเทศไทย เหนือสุดแดนสยาม มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป
หนึ่งในจำนวนนั้นคือ “พระภาวนารัตนญาณ วิ.” หรือ “ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต” พระเกจิชื่อดังวัดแสงแก้วโพธิญาณ ดอยม่อนแสงแก้ว บ้านใหม่แสงแก้ว ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
ได้รับการขนานนามว่า นักบุญแห่งแดนล้านนา พระเถระผู้เปี่ยมด้วยเมตตา มากด้วยบารมี เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา
ปัจจุบัน สิริอายุ 43 ปี พรรษา 22 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย
มีนามเดิมว่า สุชาติ อุ่นต๊ะ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ม.ค.2524 ที่บ้านปิงน้อย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ บิดา-มารดา ชื่อนายสุขและนางจำนง อุ่นต๊ะ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกัน 3 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด
ช่วงวัยเด็ก มักจะนำดินเหนียวมาปั้นเป็นพระพุทธรูป จนเพื่อนชอบล้อว่า “อยากเป็นตุ๊เจ้าหรือ?” ซึ่งไม่เคยปฏิเสธหรือโกรธ เท่าที่จำความได้ สมัยเป็นเด็กอายุ 9-10 ขวบ เป็นเด็กคนเดียวที่ไปวัด สามารถสวดมนต์ไหว้พระได้ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ
อายุ 12 ปี ตามพี่ชายไปที่วัดชัยชนะ จ.ลำพูน ทำให้มีโอกาสได้พบกับครูบาจันทร์ติ๊บ ญาณวิลาโส อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยชนะ ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นพระผู้เรืองในวิทยาคุณในยุคนั้น
พ.ศ.2541 บรรพชาที่วัดชัยมงคล ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน มีพระครูภัทรปัญญาธร วัดศรีสุพรรณ จ.ลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์
อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2544 เวลา 10.25 น. ที่วัดชัยมงคล (วัดวังมุย) จ.ลำพูน มีพระครูวิสิฐปัญญากร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูภัทรกิตติคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูไพศาลธรรมานุสิฐ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จำพรรษาอยู่ที่วัดชัยมงคล (วังมุย) มุ่งมั่นในการศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรมเป็นหลักสำคัญ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท และสอบได้บาลีประโยค 1-2
มีความเคร่งครัดของวัตรปฏิบัติ โดยพยายามศึกษาจากครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆ และได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนมีความกระจ่าง หากทราบว่ามีครูบาอาจารย์ดีอยู่ในที่แห่งใด เป็นอันต้องไปกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์และปฏิบัติตามรอยอย่างเคร่งครัด
หลังจำพรรษาอยู่ที่จังหวัดลำพูน 2 ปีเศษ มีความรุดหน้าด้านการศึกษาทั้งปริยัติและปฏิบัติ รวมทั้งศาสตร์ด้านวิทยาคม ทำให้เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างสูงทั้งในแถบจังหวัดลำพูนและภาคเหนือ
ราวกลางปี พ.ศ.2545 คณะศรัทธาชาวบ้านซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่วัดพระธาตุดงสีมา ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ได้กราบอาราธนาให้ช่วยบูรณะวัดซึ่งอยู่ในสภาพวัดร้าง ไม่มีพระจำพรรษามาเนิ่นนาน อีกทั้งยังมีงานก่อสร้างอุโบสถและวิหารคั่งค้าง
เพื่อสนองศรัทธา จึงอุทิศตนพัฒนา กระทั่งองค์พระธาตุดงสีมาที่ทรุดโทรมเก่าแก่ กลายเป็นพระธาตุหุ้มทองคำเหลืองอร่าม ภายในเวลาเพียง 1 เดือน
ต่อมา ได้มาสร้างวัดแห่งใหม่ ชื่อว่า “วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ” บนพื้นที่เนินเขาบ้านป่าตึง ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย จึงเริ่มปรับปรุงพื้นที่เพื่อก่อสร้างวัด เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค.2549 และเริ่มการก่อสร้างเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2549 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เหนือ (แปดเป็ง) ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา
นับจากนั้น เนินเขาบ้านป่าตึงจึงกลายเป็นวัดแสงแก้วโพธิญาณ และย้ายดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2566 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2554 เป็น พระครูปลัด ฐานานุกรมพระเทพสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย
วันที่ 5 ธันวาคม 2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระภาวนารัตนญาณ
“การทำบุญ ไม่ว่าจะทำมากหรือทำน้อย ผลบุญกุศลนั้นย่อมมีการสั่งสมไว้ จนทำให้ก่อเกิดบารมีต่อผู้ประพฤติปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ยิ่งบุญกุศลมากเท่าใด ย่อมทำให้ผู้ปฏิบัติมีบุญญาธิการมากเท่านั้น” หลักคำสอนครูบาอริยชาติ
กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน แต่ความมุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สำหรับครูบาอริยชาติ ยังคงปฏิบัติอยู่โดยมิรู้เหน็ดเหนื่อย
เป็นที่เคารพนับถือของชาวล้านนาสืบไป