“หลวงพ่อจ้อย จันทสุวัณโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีอุทุมพร (วังเดื่อ) ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พระเกจิชื่อดังปากน้ำโพ

มีนามเดิมว่า จ้อย (ภาษาลาวพื้นบ้านแปลว่าผอม บางคนก็เรียกหลวงพ่อจ่อย ซึ่งก็แปลว่าตัวเล็ก) เกิดในตระกูล ปานสีทา ที่ ต.พรวงสองนาง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เกิดเมื่อวันอังคารที่ 8 เม.ย.2456

ต่อมา โยกย้ายที่ทำกินไปถึงบ้านวังเดื่อ ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์

อุปสมบทเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2476 ที่วัดดอนหวาย ต.พรวงสองนาง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี มีพระครูปลัดตุ้ย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์บุญธรรม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์บุญตา เป็นพระอนุสาวนาจารย์

รายงานพิเศษ

หลวงพ่อจ้อย จันทสุวัณโณ

 

อยู่จำพรรษาที่วัดดอนม่วง อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2478 แล้วย้ายมาจำพรรษาที่วัดพรหมจริยาวาส อ.เมือง จ.นครสวรรค์ สอบได้นักธรรมชั้นโท พ.ศ.2479 หลังจากนั้นเดินทางเข้ากรุง พักอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม และไปศึกษาพระอภิธรรมที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์

ต่อมา ชาวบ้านวังเดื่อเห็นว่าวัดศรีอุทุมพรขาดเจ้าอาวาส จึงรวมตัวกันไปกราบอาราธนานิมนต์ให้กลับมาเป็นเจ้าอาวาส เมื่อพ.ศ.2485

ศึกษาวิทยาคม รวมทั้งวิธีการทำวัตถุมงคลจากพระเถระผู้มีชื่อเสียงหลายรูป เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เรียนวิชาการทำตะกรุดโทน ผ้าประเจียด การทำน้ำมนต์ ยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์มหาอำนาจ

เรียนการทำผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงพุทธคุณ ผงมหาราช จากหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ อ.หันคา จ.ชัยนาท แลกเปลี่ยนวิชาและเรียนพระคาถานะ 108 หัวใจธาตุทั้ง 4 หัวใจคาถาต่างๆ จากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม

นอกจากนี้ ยังฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาการทำมีดหมอ วิธีสร้างสิงห์งาแกะ วิชาการทำน้ำมนต์จากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์

รายงานพิเศษ

รวมทั้งศึกษาวิชาด้านการหุงน้ำมัน วิชาการประสานกระดูก จากหลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ด้วย

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2485 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีอุทุมพร พ.ศ.2514 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นประทวน

พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรและประกาศเกียรติคุณบัตรในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประเภทส่งเสริมการพัฒนาชุมชนโดยใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

มีกิจวัตรที่สำคัญ คือการบิณฑบาต สวดมนต์ ทำสมาธิ ปฏิบัติกัมมัฏฐาน อีกทั้งทำงานด้านการก่อสร้างถาวรวัตถุในวัด การพัฒนาสร้างถนน ทำบ่อน้ำ เหมือง-ฝายกักเก็บน้ำให้ประชาชนได้มีน้ำใช้ทำการเกษตร ใช้ในการอุปโภคบริโภค

ช่วงบั้นปลายชีวิต สุขภาพร่างกายท่านเริ่มอ่อนแอลง จนกระทั่งวันที่ 16 เม.ย.2550 ท่านจากไปอย่างสงบ สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74

ปัจจุบันร่างของท่านยังสงบอยู่ในโลงแก้วที่ศาลาจัตุรมุข วัดศรีอุทุมพร

ด้านวัตถุมงคลมีมากมายหลายชนิด หลายรุ่น ทั้งรูปหล่อ รูปถ่าย เหรียญ พระกริ่ง พระผง พระสมเด็จ ตะกรุด ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ธง มีดหมอ งาแกะ รูปนางกวัก เป็นต้น

รายงานพิเศษ

สร้างเอง เสกเอง เพียงรูปเดียว ไม่เคยจัดพิธีปลุกเสกหมู่ หรือนำของไปให้ใครช่วยปลุกเสก มีบางส่วนที่คณะกรรมการวัดจำเป็นต้องเปิดให้เช่าบูชาเพื่อหาทุนก่อ สร้างถาวรวัตถุในวัด และอื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อปี พ.ศ.2539 จัดสร้างเหรียญรุ่นพิเศษ 82 ปี ลักษณะเป็นทรงรูปไข่ มีหูห่วง

ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนนั่งขัดสมาธิเต็มองค์ นั่งอยู่บนฐานบัวคว่ำ-บัวหงาย มีบัว 13 คู่ ตรงกลางมีเส้นตรงยาว ใต้ฐานบัวมีตัวอักษรภาษาไทยเขียนว่า “รุ่นพิเศษ” ต่ำลงไปเป็นตัวเลขไทย “๘๒” ล่างสุดเป็นตัวหนังสือว่า “หลวงพ่อจ้อย” มีเส้นขอบยกนูน

ด้านหลังตรงกลางเป็นยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ มีตัวอุณาโลมขึ้น 3 ตัว ใต้ยันต์มีอักษรขอมเป็นคาถา ว่า อุทธังหะเรจะนะมะพะทะ ใต้คาถาเป็น “พ.ศ.๒๕๓๙” ด้านซ้ายมือเรา ขวามือเป็นอักษรภาษาไทยว่า “วัดศรีอุทุมพร” ด้านบนว่า “อ.เมือง” ด้านขวามือเรา ด้านซ้ายของเหรียญว่า “จ.นครสวรรค์”

ลักษณะเป็นการสร้างขึ้นล้อพิมพ์เหรียญหลวงพ่อเดิม รวมทั้งยันต์และคาถาที่ใช้ก็เป็นแบบเดียวกัน ประกอบกับเคยเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อเดิมอยู่ระยะหนึ่ง

จึงสร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์และเป็นการบูชาครูไปในตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน