คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2560 ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อที่จะกล่าวว่า จะคลี่คลายอะไรต่อมิอะไรหลายประการ เมื่อเราคืนสู่ประชาธิปไตยปกติ
โลกจะกลับมาต้อนรับเรา ผู้นำนานาชาติ ประเทศใหญ่ในตะวันตก จะกลับมายิ้มแย้มกับเรา
การเดินทางเยี่ยมเยียนไปมาหาสู่กัน จะเกิดขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อประตูโลกและประตูบ้านเราเองเปิดกว้างต้อนรับกัน เท่ากับปลดล็อกเศรษฐกิจการค้า
ช่วยแก้ความฝืดเคืองที่เกิดขึ้นอย่างถ้วนหน้าในทุกกิจการร้านค้าในวันนี้
แต่มีคำถามว่า ถ้ามีเลือกตั้งแล้ว การเมืองจะกลับมาวุ่นวายเหมือนเมื่อไม่กี่ปีมานี้หรือไม่
คำตอบก็คือ ถามตัวเองก่อนว่า การเมืองที่ยุ่งยาก นั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากความจงใจผลักไสให้ไปสู่ทางตันหรือไม่
ขั้วการเมืองไหน ที่อาละวาดในสภามาตลอดปี 2556 สร้างวาทกรรมเผด็จการรัฐสภาขึ้นมา แล้วโหมจนเป็น กระแส เพื่อปูทางไปสู่อะไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกพรรค ทุกขั้วการเมืองล้วนกระทำผิดพลาด
การเมืองต้องพัฒนาแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่ๆ เพียงแต่ด้วยหนทางใด
เมื่อปี 2556-2557 สังคมไทยแก้ปัญหาการเมือง ด้วยการหยุดประชาธิปไตย
ใช้อำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาแก้ประชาธิปไตย จะเป็นไปได้อย่างไร!?
สำคัญสุดวาทกรรม ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ทำให้ไม่มีการเลือกตั้ง
เท่ากับผลักประชาชนออกไป ไม่สามารถมีส่วนร่วมการเมืองอีก ประชาชนกลับไปนั่งนิ่งๆ ไม่ต้องมายุ่ง
คนดีหยิบมือ เป็นผู้ขีดเขียนกติกา มาปฏิรูปให้ มากำหนดยุทธศาสตร์ให้คนส่วนใหญ่ต้องเดินตามอีก 20 ปี
แต่ถ้าย้อนกลับไปวันที่ชัตดาวน์ประเทศ แล้วรัฐบาลยอมยุบสภา ถ้าเลือกการเลือกตั้ง ไปสั่งสอนพรรคเพื่อไทย ป่านนี้ประชาธิปไตยยังดำรงอยู่
ไม่โดนโลกปิดล้อม การพัฒนาบ้านเมืองไม่ชะงัก ไม่ต้องทยอยปิดกิจการเช่นขณะนี้
ที่สำคัญคือการล้มพรรคการเมืองที่เหลิงอำนาจด้วยมือประชาชน ผ่านระบบปกติจริงๆ
หัวใจของการเลือกตั้ง คือการมีส่วนร่วมของประชาชน ทำให้ทั้งสังคมเรียนรู้และร่วมกันพัฒนาการเมืองด้วยมือพวกเราเอง
ให้ประชาชนร่วมกันสร้างการเมือง ถูกทางและมั่นคงยาวนานแน่นอน
ช้าๆ แต่ยั่งยืน
ไม่ทำให้ประชาชนทั้งหมดยิ่งไร้ค่า รอคอยกลุ่มเดียวกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างให้!