คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

ความจริงแล้ว บทสรุปข้อหนึ่งที่ได้มาจากผลการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งกลไกของมหาดไทย ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับรู้ได้ดีที่สุดก็คือ

คนจำนวนไม่น้อย ไปกาเห็นชอบ เพราะหวังว่าจะได้มีเลือกตั้งเร็วไว เศรษฐกิจการค้าจะได้ฟื้น

ดังที่มีคำกล่าวว่า รับไปเถอะ จะได้ไม่วุ่นวายอีก แล้วจะได้เลือกตั้งกันเสียที

นั่นสะท้อนว่า คนจำนวนมากหวังว่าการเลือกตั้งจะปลดล็อกปัญหาประเทศ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและปากท้อง

ด้วยเพราะทุกคนรู้ดีว่า เมื่อเราเลือกหนทางแก้ปัญหาด้วยการหยุดประชาธิปไตย โลกจะเลิกคบค้า

เมื่อประชามติผ่าน การเลือกตั้งก็เป็นไปตามโรดแม็ป

ประชาชนคนไทยคาดหวังว่า เรากำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง!

ปีหน้าเมื่อเข้าสู่บรรยากาศเลือกตั้ง อะไรต่อมิอะไรย่อมดีขึ้นแน่

คนที่สร้างวาทกรรมว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง วันนี้ก็กำลังกระอัก ฝืดเคืองเหมือนเช่นคนส่วนใหญ่นั่นแหละ

เมื่อเข้าช่วงคืนสู่ประชาธิปไตยในปีหน้า จะยิ่งเห็นรูปธรรมเด่นชัด

นานาชาติโดยเฉพาะโลกตะวันตก จะเริ่มอ้าแขนรับ

การไปมาหาสู่กันจากผู้นำทั่วโลกจะเกิดขึ้นอีกครั้ง!

เมื่อนั้น การเมือง การค้า การลงทุน จะคลี่คลายไปด้วย

แต่ไปๆ มาๆ ชักเป็นห่วงกันว่า ความฝันในทางที่ดีของประชาชน อาจสะดุดเสียก่อน

เมื่อบรรยากาศการถกเถียงกม.ลูก กำลังทำให้ทุกคนเห็นว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั้น มันไม่ใช่ประชาธิปไตยสักเท่าไร

พรรคการเมืองใหญ่น้อยดาหน้าออกมาต่อต้าน ไม่เว้นพรรคที่แกนนำซีกหนึ่ง ไปเรียกหาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง!?!

แล้วชัดเจนว่าปฏิรูปโดยคนกลุ่มเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับเสียงคนส่วนใหญ่ ผลออกมาเช่นไร

ปฏิรูปแล้วพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชนแท้ๆ กลับถูกควบคุมเข้มงวดจนกระดิกไม่ได้

ถ้าผู้แทนประชาชนไร้สิทธิ์ไร้เสียง อย่างนี้ปฏิรูปเพื่อใคร!?

ปฏิรูปตามความเชื่อเอาเองของคนกลุ่มเดียว แล้วกำหนดให้คนส่วนใหญ่ต้องก้มหน้ายอมรับ จะดีหรือ

อย่าทำให้บรรยากาศที่จะดีในปีเลือกตั้ง ต้อง เสียหายเลย!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน