คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

การเมืองในเกาหลีใต้ กำลังเป็นที่กล่าวขวัญ ทั้ง จุดเริ่มต้นในการเปิดโปงเบื้องหลังผู้ชักใยประธานา ธิบดีหญิงและการคอร์รัปชั่นอื้อฉาว ที่โยงมาจากปม ชู้รักหนุ่ม แล้วนำมาสู่การลุกฮือของประชาชนนับล้านเพื่อต่อต้านผู้นำการเมือง สุดท้ายลงเอยด้วยการใช้กลไกสภาเข้ามาแก้ปัญหา

นำมาสู่จุดจบของปาร์ก กึนเฮ ประธานาธิบดีหญิง โดยไม่จำเป็นต้องมีอำนาจนอกระบบใดๆ เข้ามาแทรกแซง

ประชาชนเกาหลีใต้ได้รับชัยชนะ โดยใช้ขั้นตอนประชาธิปไตยปกติ

การเมืองของดินแดนโสมใต้ จึงยังเดินหน้าต่อไปได้ พัฒนารุดหน้า ไม่มีถอยหลังเข้าถ้ำลงคลอง

อำนาจการเมืองในมือประชาชนก็ยังคงอยู่ ไม่โดนคนกลุ่มหนึ่งยึดเอาไปใช้กันเอง

นี่คือความก้าวหน้าของประชาธิปไตย ที่สังคมทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ชอบใช้วิธีล้าหลังควรเรียนรู้มากที่สุด!!

จุดเริ่มของเหตุการณ์อื้อฉาวในเกาหลีใต้นั้น จุดชนวนด้วยการเปิดโปงนางชเว ซุนซิล สาวใหญ่วัย 60 เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีหญิงว่า เป็นผู้ที่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

เข้าถึงข้อมูลราชการ ดูแลสุนทรพจน์ของผู้นำ ชี้นำ การแต่งตั้งโยกย้ายต่างๆ

อิทธิพลนี้เอง นำมาสู่การบังคับให้กลุ่มธุรกิจใหญ่ของเกาหลีใต้ ต้องบริจาคเงินเข้ามูลนิธิของนางชเว เข้าข่าย การแสวงหาประโยชน์ การคอร์รัปชั่น

ด้วยความที่เพื่อนสนิทคนนี้ เป็นทายาทของผู้นำทางจิตวิญญาณ จึงนำมาสู่ฉายารัสปูตินหญิง

เรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยายของเหตุการณ์นี้ก็คือ คนที่ออกมาเปิดโปง เป็นหนุ่มเจ้าของกิจการกระเป๋าสตรีวัย 40 ปี ชู้รักของรัสปูตินหญิง

แถมสัมพันธ์สาวใหญ่กับหนุ่มวัยอ่อนกว่า มาแตกหัก เพราะทะเลาะกันเรื่องการเลี้ยงหมาตัวโปรด!

พอรักขมก็เลยแอบเก็บหลักฐานทั้งหมด ก่อนนำมา เปิดเผยต่อสาธารณะ

รัสปูตินหญิงจึงถูกดำเนินคดี แล้วลามไปถึงเก้าอี้ประธานาธิบดีหญิง

ทำให้ประชาชนเกาหลีออกมาชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำหญิง เรียกร้องให้ออกไป แต่ไม่เคยเป่านกหวีดเรียกหา กองทัพ

ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของนักการเมือง แต่ก็เรียกร้องให้ระบบสภาจัดการ!

ม็อบเกาหลีใต้ ไม่ได้ถูกสะกดจิตว่า นักการเมือง มันชั่ว จึงไม่ควรมีประชาธิปไตย

ไม่ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่ต้องหยุดประชาธิปไตยก่อน

พบปัญหานักการเมืองชั่ว แต่คนเกาหลีใต้ ไม่ต่อสู้เพื่อทำลายอำนาจของประชาชนเอง

ลงเอยสภาเกาหลีใต้จึงทำหน้าที่และลงมติถอดถอน

ประชาธิปไตยก็ยังอยู่และรุดหน้า เศรษฐกิจการค้าก็ไม่ต้องถดถอยฝืดเคือง!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน