คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
การปรับครม.ประยุทธ์ 4 เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตไปแล้วว่า เป็นช่วงเวลาพอดิบพอดีกับที่มีการโหมข่าวลือว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะโดนปรับพ้นจากรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง
หรือบางข่าวก็ว่า พล.อ.ประวิตร ยื่นลาออกจากตำแหน่งแล้ว ด้วยปัญหาสุขภาพก็มี
ครั้นเมื่อปรากฏโฉมหน้าครม.ใหม่ ที่มีการปรับถึง 12 ตำแหน่ง โดยไม่เกี่ยวกับสายงานความมั่นคงเลยนั้น
เป็นอันว่าข่าวลือก็เป็นแค่ข่าวลือ
หลังจากนั้นกระแสข่าวที่เกี่ยวกับพล.อ.ประวิตร ก็เริ่มไร้น้ำหนัก
แล้วมาล่าสุด หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีใหม่ เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่
วันรุ่งขึ้น นายกฯได้ออกมาให้สัมภาษณ์ย้ำเองอีกว่า ไม่มีการปรับพล.อ.ประวิตรออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน!
เป็นอันการันตีอีกรอบว่า บิ๊กตู่ยังคู่กับบิ๊กป้อม ไม่เปลี่ยนแปลง
สายงานความมั่นคง ก็ยังมั่นคงอยู่ต่อไป
เครือข่ายทหารและตำรวจ ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใดทั้งสิ้น!
ขณะเดียวกัน หากย้อนไปดูคำให้สัมภาษณ์โต้ข่าวลือเรื่องนี้ของพล.อ.ประวิตรเอง
ได้ระบุถึงข่าวลือนี้ว่า เพื่อเป็นการตัดขาตนเอง เพื่อทำให้รัฐบาลอ่อนแอ อยากให้รัฐบาลพัง
“ถ้าผมออกสักคน ก็หลุดไปเยอะ เพราะผมดูแล ทั้งทหารและตำรวจ”
ถ้อยคำของพล.อ.ประวิตรในประเด็นนี้ อธิบายได้เห็นภาพ เพราะเป็นรองนายกฯที่คุมทั้งกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อาจเป็นความมุ่งหวังของขบวนการปล่อยข่าว ที่ต้องการเน้นไปยังยอดบนคือ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง หากเปลี่ยนที่หัวได้ ย่อมมีผลเปลี่ยนแปลงลงมาถึงเก้าอี้ทหาร-ตำรวจใหญ่
ขณะเดียวกัน ขบวนการนี้ คงไม่แค่เล่นสงครามข่าวเท่านั้น แต่คงมีการเคลื่อนไหวภายในสอดประสานกันอีกหลายด้าน
เขย่าเก้าอี้ฝ่ายความมั่นคงทุกรูปแบบ!
แต่อย่าลืมว่า รัฐบาลคสช.นั้น เป็นรัฐบาลพิเศษ ไม่ใช่รัฐบาลจากพรรคการเมืองที่จะปรับเปลี่ยนครม.กันได้เรื่อยๆ
ปรับหนนี้ ก็อาจจะไม่มีเหตุผลให้ต้องปรับอีก เพราะเข้าใกล้ช่วงวันคืนประชาธิปไตยและเลือกตั้งแล้วในปีหน้า
เมื่อสถานะของบิ๊กป้อมวันนี้ยังเป็นปกติ เก้าอี้ใหญ่ของทหารและตำรวจก็ย่อมเป็นปกติเช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะวงการตำรวจอันเปราะบางอ่อนไหวนั้น เป็นอันเชื่อได้ว่าสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
หลังปีใหม่พ้นช่วงเทศกาลแล้ว เตรียมแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้การ-สารวัตรตามวาระกัน ต่อไป!
